แม้ปัจจุบันหลายภาคธุรกิจประสบกับปัญหาหลายด้าน จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของบริษัทได้กำไรหลักจากการออกประกันใหม่จากโควิด-19 ซึ่งเป็นเจ้าแรกในโครงการนี้ โดยมีตัวเลขผู้ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยไวรัสโควิด-19 มีเบี้ยประกันภัยรวมกว่า 300 กว่าล้านบาท หรือประมาณ 6 แสนกว่ากรมธรรม์ ส่งผลทำให้การดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรก ปี 2563 บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด(มหาชน) สามารถทำเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ที่ 6,136 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.3 มีกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังจากหักค่าใช้จ่ายดำเนินงานกว่า 328 ล้านบาท และรายได้สุทธิจากการลงทุนกว่า 459 ล้านบาท กำไรก่อนหักภาษีเงินได้ 788 ล้านบาท แต่เมื่อหักภาษีแล้ว บริษัทมีกำไรสุทธิกว่า 668 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9
ประธานคณะผู้บริหารกรุงเทพประกันภัย มองว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคสามารถควบคุมได้ และไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น เชื่อมั่นว่า จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงโอกาสธุรกิจประกันภัยจะยังคงมีโอกาสทางธุรกิจได้หลายด้าน เช่น
-จากกลุ่มผู้บริโภคที่ตระหนักถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพ วัดจากมีผู้ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยไวรัสโควิด-19 จำนวนมาก กลุ่มนี้จะเป็นฐานลูกค้าที่มีศักยภาพในการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพอื่น ๆ ต่อไป
-แนวโน้มของอัตราค่าสินไหมทดแทนของประกันสุขภาพจะลดลง จากการใช้ ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เช่น การสวมหน้ากากอนามัยจะส่งผลให้การเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อทางเดินหายใจต่างๆ ลดน้อยลง
-มาตรการผ่อนคลายของสถาบันต่างๆ ส่งผลให้บริษัทประกันภัยมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น เช่น การอนุญาตให้จำหน่ายประกันภัยแบบระยะสั้นเป็นรายวัน รายเดือน รายไตรมาส และการอนุญาตให้สามารถผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยรถยนต์กับบริษัทประกันโดยตรง รวมถึง การเลื่อนการบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลออกไปอีก 1 ปี ทำให้ช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการลงไปได้อีกระดับหนึ่ง
สำหรับการคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ว่าตัวเลขจีดีพีของประเทศไทยอาจจะเติบโตลดลงถึงร้อยละ 6 โดยเฉพาะการส่งออกและภาคบริการการท่องเที่ยวจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง แต่ยังมั่นใจว่า ธุรกิจประกันภัยจะยังคงเดินหน้าต่อไปได้