หลังจากเมื่อวานนี้ตำรวจกองปราบปรามเชิญพ่อ แม่ และ น้องชาย ของน.ส.นิษฐา วงวาล หรือ น.ส.ปุ๊ก อายุ 29 ปี เข้าให้ข้อมูลเรื่องพฤติกรรมการเลี้ยงเด็กชายอายุ 2 ขวบ เด็กหญิงอายุ 4 ขวบ และเส้นทางการเงิน ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงช่วงกลางคืน ก่อนที่จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการกองกำกับการ 4 กองปราบปราม เปิดเผยว่า ครอบครัวของน.ส.ปุ๊ก ให้ความร่วมมือและให้การเป็นประโยชน์ เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใครเพิ่มเติม เพราะขณะนี้พยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง น.ส.ปุ๊ก เพียงคนเดียว แต่ตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง หลังจากนี้จะต้องสอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม
จากการตรวจสอบเงินในบัญชีที่เปิดรับเงินบริจาคที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 15 ล้านบาท พบว่า เป็นการทยอยโอนเงินเข้ามาในจำนวนไม่มาก แต่ น.ส.ปุ๊ก ทยอยถอนไปเรื่อยๆ จนมียอดถอนรวมเป็นจำนวนมาก ต้องใช้ระยะเวลาการตรวจสอบ
ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอของน.ส.ปุ๊ก และ เด็กชายอายุ 2 ขวบ ที่ออกมาว่าเป็นแม่ลูกโดยสายเลือด ผลดังกล่าวไม่กระทบต่อรูปคดี เพราะไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ แต่ใครที่กระทำต่อเด็กและใครได้รับผลประโยชน์ ถือมีความผิดทั้งนั้น
พ่อของน.ส.ปุ๊ก หรือ ตาของเด็ก บอกว่า หากผลดีเอ็นเอ ชัดเจนว่าเป็นลูกชายของน.ส.ปุ๊กจริง จะขอรับเด็กชายกลับมาเลี้ยงดูเอง เนื่องจากขณะนี้ เด็กชาย อยู่ในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในระยะเวลา 6 เดือน
ขณะที่ นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถขอรับเด็กกลับไปดูแลเองได้ เพราะยังอยู่ในกระบวนการขั้นตอนการคุ้มครองของศาลอยู่ ศาลได้มีคำสั่งไม่ให้มีบุคคลในครอบครัวหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวกับคดีนี้ใกล้ชิดเด็กแต่ถึงแม้จะไม่มีคำสั่งศาล ขณะนี้ เด็กชายก็ยังไม่มีความพร้อมที่จะกลับไปอยู่ในความดูแลของครอบครัวน.ส.ปุ๊ก ส่วนสภาพจิตใจของเด็กดีขึ้นตามลำดับ มีพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา
แฟ้มภาพ
ข่าวทั้งหมด