การเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ในช่วงผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เน้นการรักษาความสะอาด ควบคู่ไปกับการสังเกตอาการตนเอง และผู้ใกล้ชิด
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทย ที่มีสถานพัฒนาเด็กประถมวัยทั่วประเทศกว่า 30,000 แห่ง ได้ประชุมร่วมกับสมาคมโรงเรียนอนุบาลและสมาคมศูนย์ดูแลเด็กอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อต้องกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยกรมอนามัยได้จัดเตรียมคำแนะนำการป้องกันตนเองและการปฏิบัติเพื่อให้ 3 กลุ่มสำคัญที่มีส่วนร่วมในการเปิดสถานพัฒนาเด็กเล็ก
กลุ่มแรก คือเจ้าของสถานพัฒนาเด็กเล็กปฐมวัย ได้กำหนดให้แต่ละแห่งจัดทำแนวทางการปฏิบัติ ทั้งการทำความสะอาดสถานที่ สิ่งของเครื่องใช้ จุดสัมผัสต่างๆ รวมถึงยานพาหนะที่ใช้รับส่งให้สะอาดปลอดภัย วางแนวทางการคัดกรอง การสื่อสารกับครูพี่เลี้ยงและผู้ปกครองเพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน รวมทั้งกำหนดการเว้นระยะห่างในการทำกิจกรรมของเด็ก ๆ
กลุ่มที่สอง ครูผู้ดูแลเด็ก จะต้องสังเกตอาการตนเองหรือคนใกล้ชิด หากมีไข้ ไอ เหนื่อยหอบ หรือกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ให้หยุดงานทันที มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนปฏิบัติงาน สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และใส่เฟสชิลด์ตลอดเวลา จัดให้เด็กเรียนเป็นกลุ่มย่อยไม่เกิน 5-6 คนต่อกลุ่ม เหมือนฟองอากาศ เรียกว่า บับเบิ้ล โมเดล (Bubble Model) หรือแยกเป็นรายบุคคล รวมทั้งการรับประทานอาหารและการนอน ต้องเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร หรือมีฉากกั้นระหว่างบุคคลด้วย
กลุ่มที่สาม คือ ผู้ปกครองซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญ ขอความร่วมมือหากพบว่าบุตรหลานของตนเองมีอาการป่วย มีไข้ ไอ มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ หรือคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคโควิด 19 หรือกลับจากพื้นที่เสี่ยงและอยู่ในช่วงกักตัว ต้องขอให้เด็กหยุดเรียน และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ต้องเตรียมของใช้ส่วนตัวของเด็ก เช่น หน้ากากผ้า เสื้อผ้า เพื่อใช้ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เมื่ออยู่บ้านเตรียมอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ เน้นโปรตีน ปรุงสุกใหม่ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
โดยย้ำว่า เมื่อรับเด็กเล็กกลับบ้านไม่ควรแวะตามสถานที่ชุมชน และให้เด็กอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อถึงบ้าน เพื่อสุขอนามัยที่ดีของบุตรหลาน
..