*สมคิด ให้ความสำคัญภาคประชาชนมีส่วนสำคัญขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ*

แนวทางการปฎิรูปสังคมเพื่อพัฒนาประเทศไทย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ปาฐกถาในเรื่อง "ปฎิรูปสังคม สร้างสัมมาชีพชุมชน" ที่ดำเนินการจัดโดยคณะกรรมาธิการปฎิรูปสังคม ชุมชน เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสว่า ภาคประชาชนยังขาดความรู้ ความสามารถในการมีส่วนร่วม รวมทั้งไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้เต็มที่ การปฎิรูปสังคมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแก้ปัญหาด้วยการนำประชาชนให้มีการรวมตัวแสดงความเห็นกันผ่านการเสวนา เพื่อยกระดับความรู้ความเข้าใจ พร้อมทั้งชี้ว่าประเทศไทยยังมีบุคคลที่มีความสามารถอยู่มาก แต่ระบบการจัดการในอดีตไม่มีประสิทธิภาพและขาดการทำงานร่วมกันของแต่ละฝ่าย จึงเกิดปัญหาจนปัจจุบัน ส่วนการปฎิรูปขณะนี้ ส่วนตัวมองว่าควรเร่งปฎิรูปการคอรัปชั่น เนื่องจากเป็นปัญหาที่มีอยู่ในทุกระดับ และขณะนี้มองว่าแนวทางการปฎิรูปยังไม่มีความชัดเจนมากพอ 

ขณะที่ นาย เทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฎิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ได้กล่าวปาฐกถาในเรื่อง "ชวนร่วมปฎิรูปกับสภาปฎิรูปแห่งชาติ" ว่า การปฎิรูปอาจไม่ใช่ทางออกในการแก้ปัญหาประเทศ และสปช.กับคณะทำงานทุกชุดก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง โดยต้องอาศัยประชาชนและภาคสังคมทุกส่วนเป็นตัวขับเคลื่อน พร้อมชี้ว่าการปฎิรูปจะไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาในปัจจุบัน แต่ต้องมองถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังการปฎิรูปและแนวทางการพัฒนาประเทศในอนาคตอีกอย่างน้อย 5 ปี พร้อมระบุว่า หลังการปฎิรูปแล้ว คาดหวังให้เกิดผล 6 ประการ เช่น ประเทศไทยต้องเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและต้องมีแนวทางเหมาะสมกับสังคมไทย ขจัดความเหลื่อมล้ำของสังคม และมีกลไกปราบการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น โดยระบุว่า เรื่องการปฎิรูปสังคมขณะนี้ต้องเร่งแก้ปัญหาที่แรงงานข้ามชาติและจิตสำนึกของประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นกำลังของประเทศในอนาคตขณะที่จากการสอบถามภาคประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่เสนอปัญหาที่หลากหลายกัน เช่น เสนอให้มีมาตรการยกเลิกชุมชนแออัด เพราะเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด เสนอให้แก้ไขปัญหาค่าครองชีพ และแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดมายาวนาน เป็นต้น

ธีรวัฒน์