ฝ่ายค้านฮ่องกงนัดชุมนุมใหญ่ หลังสภาประชาชนจีนผ่านกฎหมายความมั่นคง

          สภาประชาชนแห่งชาติของจีน หรือเอ็นพีซี เริ่มการประชุมชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 ในวันนี้เป็นวันที่ 2 จากกำหนด 7 วัน โดยประเด็นสำคัญของการประชุมเมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) คือการที่จีนจะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและมาตรฐานการใช้ชีวิตของประชาชนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) และมาเก๊า ให้สอดคล้องกับการพัฒนาโดยรวมของจีนให้ดีขึ้น เพื่อให้ทั้ง 2 เขตบริหารพิเศษเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว และเสนอกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ที่จะมีการบังคับใช้ในฮ่องกงโดยเร็ว ซึ่งเป็นการให้อำนาจรัฐสภาของจีนจัดทำกรอบกฎหมาย และบังคับใช้ เพื่อลงโทษผู้กระทำความผิดในลักษณะที่เป็นกบฏ, การก่อการร้าย, การแบ่งแยกดินแดน และการกระทำใดๆ ที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ

          นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เปิดเผยว่า ทางการฮ่องกงจะเร่งรับรองกฎหมายฉบับนี้โดยเร็วที่สุด ซึ่งเธอกล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายคือการป้องกันและจัดการกับการกระทำที่เป็นอันตรายกับความมั่นคง รวมถึงการแยกฮ่องกงเป็นอิสระและการใช้ความรุนแรงทางการเมือง แต่จะไม่กระทบกับสิทธิและเสรีภาพของชาวฮ่องกง รวมถึงความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการ

          ด้านสมาชิกสภาฝ่ายค้านของฮ่องกงนัดชุมนุมประท้วงคัดค้านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีนในทันทีเมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) โดยมีการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจ และด้านหน้าสำนักงานประสานงานของจีนในฮ่องกง และนัดชุมนุมใหญ่ในวันอาทิตย์ (24 พ.ค.) ซึ่งผู้ประท้วงระบุว่า กฎหมายฉบับนี้ขัดต่อหลักการ 1 ประเทศ 2 ระบบที่ทางการจีนอ้างถึงมาโดยตลอด ขณะที่ภายในสภานิติบัญญัติฮ่องกง สมาชิกฝ่ายค้าน รวมตัวกันก่อเหตุรุนแรงขึ้นภายในสภา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวผู้ก่อความวุ่นวายออกไปจากห้องประชุม

          ฮ่องกงมีการชุมนุมประท้วงต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว จนกระทั่งมีสถานการณ์โควิด-19 จึงหยุดการชุมนุมไป แต่จากกฎหมายการชุมนุมฉบับนี้ ทำให้มีชาวฮ่องกงจำนวนมากไม่พอใจและกลับมาร่วมการชุมนุมอีกครั้ง

....