ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 0.75 เหลือร้อยละ 0.5 มีผลทันที นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ มีแนวโน้มชะลอตัวมากกว่าประมาณการเดิม จากปัจจัย ดังนี้
-แนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัวรุนแรงกว่าที่คาด
-ผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดทั่วโลก
-อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มติดลบมากกว่าประเมินไว้
-เสถียรภาพระบบการเงินเปราะบางมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ
กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นจะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบ รวมทั้งสอดคล้องกับมาตรการการคลังของรัฐบาลและมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อที่ได้ออกไปก่อนหน้านี้ จะช่วยสนับสนุนการจ้างงานและธุรกิจ SMEs เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ต้องดูแลให้สภาพคล่องกระจายตัวไปยังภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19
ขณะที่กรรมการ 3 คน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมครั้งนี้และเร่งรัดประสิทธิผลของมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อที่ได้ประกาศไปแล้ว
ส่วนปัจจัยที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัว ต้องพิจารณาจาก
-สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ทั้งเรื่องการผ่อนคลายมาตรการและโอกาสที่โรคโควิด-19 อาจกลับมาระบาด
-ประสิทธิผลของมาตรการด้านการคลังและมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อ
นอกจากนี้ ที่ประชุมกังวลเรื่องสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อาจกลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เห็นควรให้ติดตามสถานการณ์ตลาดการเงินและตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด ระบบสถาบันการเงินมีเสถียรภาพ ธนาคารพาณิชย์มีระดับเงินกองทุนและเงินสำรองที่เข้มแข็ง แต่ในระยะข้างหน้าต้องติดตามความเสี่ยงเรื่องเสถียรภาพของระบบธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของธุรกิจและครัวเรือน