ผู้ตรวจราชการ ก.ดิจิทัลฯ ยืนยัน แพลตฟอร์มไทยชนะ มีระบบเก็บข้อมูลรัดกุม ใช้เฉพาะสอบสวนโรค

20 พฤษภาคม 2563, 15:15น.


          แพลตฟอร์มไทยชนะ หรือ www.ไทยชนะ.com ที่เน้นให้ประชาชนและร้านค้าเข้ามาใช้งาน ตามมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 2 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นฐานข้อมูลที่จะลดความซ้ำซ้อนในการสอบสวนโรคเมื่อพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง แบบปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล



          นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านสื่อสารโทรคมนาคมและสื่อสังคมออนไลน์ ยืนยันว่า ประชาชนและร้านค้าไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลในการลงทะเบียนใช้งานแพลตฟอร์มไทยชนะ เนื่องจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มอบหมายให้กรมควบคุมโรค เป็นผู้ควบคุมข้อมูล ธนาคารกรุงไทย เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลภายใต้การควบคุม ดังนั้นผู้ประมวลผลก็ไม่สามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ในเรื่องอื่นๆนอกจากวัตถุประสงค์การควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีการส่งต่อข้อมูลไปให้หน่วยงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลต่างๆจะนำมาใช้เมื่อมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ขั้นตอนเรียกข้อมูลมาใช้





-กรมควบคุมโรค ต้องขออำนาจศาล ในการอนุญาตให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อนุญาตให้เปิดเผยชื่อผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19  และคนที่อยู่ใกล้เคียงในสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อทำการสอบสวนโรคเท่านั้น ข้อมูลที่นำไปใช้งานเพื่อการสืบสวนโรคจะแบ่งเป็น 3 ระดับ



-ข้อมูลระดับแรกหรือข้อมูลระดับตัวบุคคล คือเบอร์โทรศัพท์มือถือ จะได้รับการจัดเก็บไว้ในส่วนที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่มั่นคง



-ข้อมูลระดับร้านค้าที่จะถูกแปลงเป็นรหัส(Code) เพื่อให้ไม่ทราบว่าเป็นของใคร



-ข้อมูลที่จะใช้เพื่อสืบสวนโรค ในข้อมูลส่วนนี้จะไม่มีข้อมูลที่เป็นเบอร์โทรศัพท์สถานบริการ เพราะจะมีการแปลงเป็นรหัสแทน ไม่สามารถอ้างอิงกลับมาในถังข้อมูลในระบบได้



         ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยืนยันว่า แพลตฟอร์มนี้คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของประชาชนอย่างที่สุด  ทั้งนี้ ภาพรวมการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ รวบรวมข้อมูลตั้งแต่วัน 17-19 พ.ค. เวลา 21.00 น. ประชาชนร่วมใช้งาน มากกว่า 5,000,000 คน เฉลี่ยต่อวันเป็นคนใหม่มากกว่า 2,000,000 คน การเช็คอิน-เช็คเอาท์เฉลี่ยต่อวันมากกว่า 14 ล้านคน และมีร้านค้าเข้าร่วมมากกว่า 670,000 ร้านค้า จากตัวเลขทำให้เห็นว่าประชาชนเข้าใจและให้การตอบรับระบบร่วมใช้งานดีมาก 



         การประเมินมาตรการ 5 อย่าง พบคะแนนเฉลี่ยที่ร้อยละ 4.8 สูงสุด คือคลินิกเสริมสวย ร้อยละ 4.93 ถือว่าทุกคนทำตามมาตรการทั้งหมดมากกว่าร้อยละ 90 ดังนั้นวันนี้ภาพรวมอยู่ในระดับที่พอใจ เมื่อใดที่การ์ดตกคะแนนจะโชว์ให้เห็นทันที แพลตฟอร์มนี้จะเป็นการประเมินจากประชาชนทุกคนซึ่งจะนำไปสู่การพิจารณาผ่อนคลายในระยะต่อไปด้วย



 

ข่าวทั้งหมด

X