โฆษกศบค.ยอมรับกังวลใจเรื่องกลับมาเปิดสถานบันเทิง ยืนยัน ร้านทำผม ยังไม่สามารถดัดและย้อมผมได้

          หลังจากรัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 2 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีร้านเสริมสวยบางร้าน เริ่มให้บริการย้อมผมและทำอย่างอื่น นอกจากการอนุญาตให้สระ ตัด ไดร์ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ระบุว่า การผ่อนปรนมาตรการนี้อยู่ในข้อที่ 7 ประกาศราชกิจจานุเบกษา ร้านเสริมสวยแต่งผม หรือทำเล็บ อยู่ในหมวดกิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตในหัวข้อ ข. ยืนยันว่า ยังไม่ได้มีคำอนุญาตให้มีการดัดผม ย้อมผม เนื่องจากใช้เวลาในการทำมากกว่า 2 ชั่วโมง หลายคนก็ให้ความร่วมมือ และขอให้ตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำไปได้นานๆ ก็จะมีการปรับตัวในระยะที่ 3 หรือ 4 ก็จะอนุญาตให้ทำได้มากขึ้น ส่วนโทษสูงสุดผู้ที่ฝ่าฝืนคงเป็นเพียงแค่สั่งปิดร้านเท่านั้น

          ธุรกิจด้านสถานบันเทิง จะสามารถกลับมาเปิดบริการได้ในการผ่อนปรนระยะที่ 4 อาจตรงกับช่วงเดือนมิ.ย.หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศทำให้ ศบค. เกิดความกังวลใจเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในการแพร่ระบาดของเชื้อ หากทุกคนดูแลตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงได้ การ์ดไม่ตก ทุกอย่างจะกลับมาสู่กิจการและกิจกรรมได้เหมือนเดิม แต่ต้องอยู่ในชีวิตวิถีใหม่หรือ New Normal ที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และต้องมีการดีไซน์ร้านให้ปลอดภัยด้วย

          ส่วนการลงทะเบียนในระบบแพลตฟอร์มไทยชนะ จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ ยืนยันว่า ชุดข้อมูลต่างๆจะมีการพูดคุยและศึกษาอย่างละเอียด มีการนำเสนอมาจากหลายทาง แต่ภาครัฐ จะเป็นผู้ดูแลโดยเฉพาะ กระทรวงสาธารณสุข มีเจตนาควบคุมโรค ชุดข้อมูลจะอยู่ในระบบเพียง 60 วัน หากใน 60 วัน ไม่มีการติดเชื้อข้อมูลต่างๆจะถูกลบออกไป เนื่องจาก ไม่มีประโยชน์ ประชาชนไม่ต้องกังวล