ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม 2563

กรรมการโรคติดต่อ ยังไม่พิจารณาถอนชื่อประเทศกลุ่มเสี่ยงเพิ่ม

          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง การพิจารณายกเลิกการประกาศท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 พ.ศ.2563 เพิ่มเติมว่า ผู้ที่จะเสนอให้ปลดรายชื่อประเทศคือคณะกรรมการด้านวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งมีเกณฑ์พิจารณา สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ หากประเทศไหนมีความเสี่ยง ส่วนกรณีประเทศเกาหลีใต้และจีน กลับมามีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นหลักร้อยจะกลับไปอยู่ในประเทศเขตโรคติดต่ออีกหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทุกอย่างมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ขณะนี้ไม่ต้องกังวล เพราะยังมีมาตรการห้ามสายการบินเดินทางเข้ามา 

         ส่วนจะปลดรายชื่อประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำมาสู่การค้าขายฟื้นฟูเศรษฐกิจหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อถึงจุดหนึ่งคณะกรรมการจะพิจารณา ในส่วนตัวไม่มีอำนาจสั่งการ ขณะเดียวกันก็ต้องเฝ้าระวังไม่ให้มีการลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดนธรรมชาติ และต้องพิจารณาเหตุผลอื่นประกอบด้วย 

สธ.ขอหมอนวดและผู้ประกอบการใจเย็น รอระยะ 3

          นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กล่าวว่า ได้หารือกับสมาคมผู้ให้บริการนวดและสมาคมที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ สมาคมสปาไทย มีการทำหลักเกณฑ์การประเมินกันแล้วว่าถ้าผ่อนคลายแล้วจะทำอย่างไรให้มีความปลอดภัยและสามารถให้บริการได้ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ การเว้นระยะห่าง  ซึ่งจะทำเป็นข้อเสนอไป มีการทำการประเมินตนเอง เบื้องต้นที่มีการคุยกันว่าเปิดให้ทำหัตถการตั้งแต่ช่วงต่ำกว่าระดับเอวลงไป เช่น นวดฝ่าเท้า นวดตัวส่วนล่าง ประคบ และการสครับผิว เป็นต้น นพ.ธเรศ กล่าวว่า เข้าใจความต้องการของกลุ่มหมอนวดที่ร้องเรียน เพราะอาจเข้าใจว่า กลุ่มกิจการของตนเองอยู่ในกลุ่มผ่อนปรนในระยะที่ 2  หากได้รับการผ่อนปรนในระยะที่ 3 จะอนุญาตให้ทำช่วงล่างก่อน ตั้งแต่อก ตัว และเท้า ส่วนคอ บ่า ไหล่ อาจจะต้องเว้นไว้ก่อนเพราะใกล้กับบริเวณใบหน้า ซึ่งเท่าที่คุยกับผู้ประกอบการก็มีความพอใจอย่างน้อยก็ช่วยให้กลับมามีงานทำ

          สำหรับคลินิกเสริมความงามที่ได้รับการผ่อนปรนระยะที่ 2  สบส.จะส่งทีมออกสุ่มตรวจมาตรฐานและการปฏิบัติตามแนวทางควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ต่อไป

ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค ย้ำระวังผู้ป่วยที่แสดงอาการน้อย-ไม่แสดงอาการ

         นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวานนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 3 คน ซึ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ เกิดการติดเชื้อจากการทำงาน สอดคล้องกับข้อมูลการติดเชื้อที่พบว่า ร้อยละ 50  เป็นการติดเชื้อในครอบครัว เป็นสาเหตุที่ต้องให้คำแนะนำว่าคนในครอบครัว ควรมีการเว้นระยะห่างกัน และแยกสำรับอาหาร ขณะที่ร้อยละ 26 เป็นการติดเชื้อในสถานที่ทำงานใกล้ชิดกันทั้งการทำงานหรือการรับประทานร่วมกัน ดังนั้น ควรเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย เป็นเรื่องสำคัญมาก ช่วงหลังๆ ที่ผ่านมา การพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 พบว่า ในคนที่ผลการตรวจยืนยันเป็นบวก แต่กลับพบว่า มีอาการน้อย บางคนไม่มีอาการ ที่น่าสังเกตคือผู้สัมผัสเกี่ยวข้องก็ไม่มีอาการแต่การตรวจเชื้อกลับพบเป็นบวกเช่นกัน ดังนั้นการเดินห้างสรรพสินค้า ที่เบียด เสียด หนาแน่น ไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าใครได้รับเชื้อโควิด -19 แต่จะสามารถแพร่เชื้อโรคได้ ทั้งที่ไม่แสดงอาการ 

        นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด -19 หรือ ศบค. กล่าวว่า หลังจากมีการเปิดแพลตฟอร์มไทยชนะ โดยให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่าน www.ไทยชนะ.com ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.เป็นวันแรก พบว่า ตลอดทั้งวันจนถึงเวลา 20.00 น. มีจำนวนร้านค้าที่ลงทะเบียน 44,386 ร้านค้า จำนวนผู้ใช้งาน 2,002,897 คน จำนวนการเข้าใช้งานด้วยการเช็คอิน 2,658,754 คน เช็คเอาท์ 1,845,191 คน และมีผู้ประเมินร้านค้า 1,258,261 คน

         จังหวัดที่ผู้ให้บริการลงทะเบียนสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 14,187 ร้าน ชลบุรี 2,819 ร้าน นนทบุรี 2,457 ร้าน สมุทรปราการ 1,934 ร้าน และ ปทุมธานี 1,686 ร้าน พบว่า การลงทะเบียนส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในห้างสรรพสินค้ามากที่สุด รองลงมาคือ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และการจำหน่ายสินค้า เพื่อการอุปโภคบริโภค

         ขณะที่ประชาชนเข้าใช้บริการที่ห้างสรรพสินค้ามากที่สุด รองลงมา คือ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารเครื่องดื่ม ศูนย์อาหาร การจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคผู้บริโภค และร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม และเมื่อใช้บริการเสร็จสิ้นได้มีการประเมินร้านค้าโดยส่วนใหญ่ให้คะแนนอยู่ในระดับที่ดี ส่วนข้อมูลล่าสุดช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ค. มีจำนวนร้านค้าลงทะเบียน 46,744 ร้าน จำนวนผู้ใช้บริการ 2,725,877 คน

หุ้นสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ตอบรับการทดลองและการพัฒนาวัคซีน

          ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 911.95 จุด ปิดที่ 24,597.37 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 90.21 จุด ปิดที่ 2,953.91 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 220.27 จุด ปิดที่ 9,234.83 จุด นักลงทุนขานรับเรื่องการพัฒนาเกี่ยวกับการทดลองทางคลินิกรักษาโรคโควิด-19 ของบริษัทยาต่างๆ ท่ามกลางความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดรอบ 2 เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เช่น ราคาหุ้นของบริษัท Moderna Inc ซึ่งเป็นบริษัทในธุรกิจไบโอเทคของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นร้อยละ 26 หลังจาก แถลงว่าผลการทดลองทางคลินิกในการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ทำให้ร่างกายของอาสาสมัครผลิตแอนติบอดี้สามารถกำจัดเชื้อไวรัสในผู้ป่วยโควิด-19   

         ทองคำ ดิ่งลงหนัก โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 21.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,734.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

         ด้านราคาน้ำมัน พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ได้ปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนโรคโควิด-19 และมุมมองทางบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.39 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 31.82 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนงวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 31.65 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.31 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 34.81 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล