*อัยการสูงสุดขอให้ป.ป.ช.สอบพยานเพิ่มขายข้าวจีทูจี คดีจำนำข้าวอดีตนายกฯ หลังพบความขัดแย้งในสำนวน*

ความคืบหน้าการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมของอัยการสูงสุดและคณะทำงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์แห่งสำนวนคดีเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2557 ในคดีโครงการรับจำนำข้าว พบว่า  อัยการสูงสุดเห็นควรให้มีการสอบปากคำพยานบุคคลฝ่ายป.ป.ช. เพิ่มและให้ส่งพยานเอกสารให้ครบถ้วน มาใหม่ตามที่ยังมีข้อไม่สมบูรณ์ที่ได้แจ้งไว้ โดยเฉพาะในประเด็นการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี หรือรัฐต่อรัฐ ที่พบในสำนวนของป.ป.ช.ที่ส่งมาว่าพยานบางปากระบุว่าไม่มีการซื้อขาย แต่บางปากกลับระบุว่ามีการซื้อขายกัน ทำให้เกิดข้อโต้แย้ง จึงต้องมีการเพิ่มเติมในพยานเอกสารและมีการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเชื่อมั่นว่าหากมีการสอบพยานเอกสารเพิ่มเติมแล้ว จะมีพยานหลักฐานมากพอที่จะส่งฟ้องศาลต่อไป โดยขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะฟ้องในข้อหาใดบ้าง เพราะสำนวนยังไม่เสร็จสิ้น แต่ถือว่ามีความคืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 80 และป.ป.ช.กับอัยการสูงสุดก็มีความเห็นไปในทางเดียวกันมากขึ้น ทั้งนี้ได้มีการประสานงานไปยังป.ป.ช. เพื่อจะประชุมร่วมกันอีกครั้ง โดยคาดว่าจะเป็นในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ที่จะเป็นการประชุมร่วมประจำปีระหว่างป.ป.ช.กับอัยการสูงสุด คาดว่าอย่างเร็วสามารถสรุปสำนวนได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ยืนยันว่า อัยการสูงสุดทำงานอย่างเป็นกลางและมีความรอบคอบ โดยการดำเนินคดีเพื่อฟ้องต่อศาลจะทำได้เพียงครั้งเดียว ดังนั้นจะต้องมีการสรุปข้อหาการฟ้องร้องที่ละเอียดรอบคอบ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ธีรวัฒน์