ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563

18 พฤษภาคม 2563, 18:31น.


ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 3 คนไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม



          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 3 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสม 3,031 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 1 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วรวม 2,857 คน และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 118 คน ขณะที่ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 56 ราย



          สำหรับผู้ป่วยใหม่ 3 คน คนแรก เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันในที่ทำงาน กรุงเทพมหานคร เริ่มป่วยด้วยอาการถ่ายเหลว และเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ในวันที่ 15 พฤษภาคม และรักษาต่อที่โรงพยาบาลในจังหวัดนนทบุรี



          คนที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 55 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันในที่ทำงานเดียวกับคนที่ 1 และเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ในวันที่ 15 พฤษภาคม และรักษาต่อในโรงพยาบาลเดียวกับผู้ป่วยคนที่ 1



          คนที่ 3 เป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี อาชีพพนักงานขายสินค้า ภูมิลำเนา จังหวัดภูเก็ต มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน และเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ในวันที่ 15 พฤษภาคมและรักษาต่อที่โรงพยาบาลในจังหวัดภูเก็ต



          ขณะนี้มี 6 คน กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนโรค



ทั่วโลกติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 4,800,000 คน ตายเกือบ 317,000 ราย



          มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้น รายงาน จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 4,730,968 คนและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 315,488 ราย



          สหรัฐฯ มีผู้ป่วยสะสมและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก คือ 1,486,742 คนและเสียชีวิตแล้ว 89,564 ราย



          ประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ คือ รัสเซีย 290,678 คน, สหราชอาณาจักร 244,995 คน, บราซิล 241,080 คน, สเปน 230,698 คน



          ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรองจากสหรัฐฯ คือ สหราชอาณาจักร 34,716 ราย, อิตาลี 31,908 ราย, ฝรั่งเศส 28,111 รายและสเปน 27,563 ราย



รมว.สธ. ขอความร่วมมือรักษามาตรการสุขอนามัยเคร่งครัด



          กรณีที่มีการผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 2 แล้วมีผู้ใช้บริการห้างสรรพสินค้าจำนวนมาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวแสดงความเป็นห่วง โดยย้ำให้ดูแลเรื่องสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดเพื่อลดการติดเชื้อโควิด-19 ขอให้ประชาชนรักษามาตรการเว้นระยะห่าง ภาครัฐพยายามให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงปกติที่สุด แต่ประชาชนต้องช่วยกันระมัดระวังตัวเอง และไม่อยากบังคับ



ประจวบฯ ปลดล็อกเปิดโรงแรม



          นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกคำสั่งเรื่อง แก้ไขคำสั่งเพิ่มเติมคำสั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และการผ่อนคลายการบังคับใช้บางมาตรการในการป้องกันและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 14/2563 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2563 มีสาระสำคัญ คือ ให้โรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมทุกประเภท และสถานประกอบการที่ให้บริการในลักษณะเดียวกัน สามารถเปิดดำเนินกิจการได้ ภายใต้เงื่อนไขคือต้องมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนา



          ให้เรือที่แจ้งออกมาจากท่าต่างจังหวัดสามารถแจ้งเข้าท่าในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์



          ผ่อนคลายกำหนดระยะเวลาการปิดร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านลักษณะเดียวกับร้านสะดวกซื้อ ให้สอดคล้องกับการห้ามออกนอกเคหสถาน



          โดยศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุด้วยว่า ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่นาน 45 วัน ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเท่าเดิม 17 คน เสียชีวิต 2 ราย รักษาหายและออกจากโรงพยาบาลครบทั้ง 15 คนแล้ว



รมว.สธ. ระบุเด็กเข้าระบบเรียนออนไลน์ทางมือถือกว่าครึ่ง



          นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่าจากการติดตามการทดลองการเรียนการสอนทางไกลผ่านทีวีดิจิตอล ทีวีดาวเทียม เว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่น ในสถานการณ์โควิด-19 ก่อนที่จะเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ พบว่านักเรียนมากกว่าครึ่งใช้สมาร์ทโฟนในการเชื่อมต่อ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น ทางกระทรวงศึกษาธิการจึงจะไปหารือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองโดยจะนำเรื่องนี้ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในสัปดาห์หน้า



          ส่วนข้อร้องเรียนเรื่องของเนื้อหาการเรียนผ่านทีวีของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นั้น กระทรวงรับไปดำเนินการแก้ไขต่อไป



หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดบ่ายปรับขึ้น 5.77



          หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดที่ 1,286.53 จุด ปรับขึ้น 5.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,905 ล้านบาท



          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า ญี่ปุ่นจะเปิดเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว



          ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 20,133.73 จุด เพิ่มขึ้น 96.26 จุด



สถานะรัฐวิสาหกิจของการบินไทยเข้าครม.พรุ่งนี้



          ในวันพรุ่งนี้ต้องติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร. มีมติให้ บมจ.การบินไทย ต้องดำเนินการฟื้นฟูกิจการผ่าน พ.ร.บ.ล้มละลายฯ และเตรียมที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ



          นายวิชา มหาคุณ ประธานมูลนิธิต่อต้านการทุจริตและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายล้มละลาย-การฟื้นฟูกิจการ เปิดเผยว่า เมื่อแผนฟื้นฟูกิจการขึ้นสู่การพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง การบินไทยก็จะสิ้นสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจ เปลี่ยนสภาพการบินไทยให้เป็นบริษัทเอกชน เพื่อให้การบริหารแผนฟื้นฟูฯ โดยผู้จัดทำแผนเกิดความคล่องตัวและผู้บริหารแผนฟื้นฟูสามารถตัดสินใจเจรจากับเจ้าหนี้ได้ โดยไม่ต้องกลับไปรายงานกับหน่วยงานรัฐบาลที่กำกับดูแลอีก



ไรอันแอร์เตรียมปลดพนักงาน 3,000 คน



          ไรอันแอร์ สายการบินของไอร์แลนด์ อยู่ระหว่างเจรจากับพนักงานและสหภาพแรงงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายของบริษัท ตั้งแต่การลดเงินเดือน ให้พนักงานลาหยุดโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน และเลิกจ้างพนักงานสูงสุดถึง 3,000 ตำแหน่ง เนื่องจากผลประกอบการประจำปี 2562 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อเดือนมีนาคม ไรอันแอร์มีรายได้ 8,490 ล้านยูโร (9.19 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีก่อนหน้า และมีกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 แตะที่ 1 พันล้านยูโร แต่ยังมีปัจจัยลบหลายด้านที่รออยู่ข้างหน้า ทั้งข้อจำกัดด้านการเดินทาง และผลกระทบจากโควิด-19



เตรียมประชุมสภาฯ ลดจำนวนผู้ติดตาม



          นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ร่วมกันตรวจความเรียบร้อยของห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้นนัดแรกในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ เพื่อพิจารณาพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท



          โดยในเบื้องต้นคณะกรรมการข้าราชการรัฐสภา (ก.ร.) มีความเห็นร่วมกันว่าจะมีมาตรการในการคัดกรองผู้เข้าออกอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจะจำกัดการเข้าออกของผู้ติดตามส.ส.ให้มีได้เฉพาะเท่าที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น



          โดยในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ นายชวนนัดหารือกับหัวหน้าพรรคการเมือง ผู้นำฝ่ายค้าน และตัวแทนรัฐบาล เพื่อขอความร่วมมือลดจำนวนผู้ติดตาม และต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า รวมถึงการตรวจอุณหภูมิร่างกาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หากพบว่า มีส.ส. หรือเจ้าหน้าที่รัฐสภาคนใดมีไข้ก็จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อตรวจวินิจฉัยติดตามอาการต่อไป



....



 

ข่าวทั้งหมด

X