ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น. วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563

18 พฤษภาคม 2563, 13:02น.


คนร.เห็นชอบแผนฟื้นฟูการบินไทย เสนอครม.พรุ่งนี้



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) โดยมีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ   



         ภายหลังการประชุม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ อนุมัติให้ บริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน เข้าสู่แผนฟื้นฟู ตามพ.ร.บ.ล้มละลาย โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติเห็นชอบวันพรุ่งนี้ และเปิดเผยรายละเอียดหลังประชุม ครม.



         การพิจารณาของ ครม.เรื่องแผนฟื้นฟูการบินไทยวันพรุ่งนี้ จะมีการแถลงข่าวครั้งเดียว เนื่องจากรอให้เกิดความชัดเจนเพราะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายละเอียดขั้นตอนดำเนินการหลังครม.อนุมัติ จะมีการจัดตั้งผู้บริหารแผนฟื้นฟู มีบทบาทสำคัญในการเจรจากับเจ้าหนี้ รวมถึงพิจารณาโครงสร้างองค์กรการบินไทยในอนาคต ทั้งปรับลดขนาดองค์กร กำหนดจำนวนพนักงานที่เหมาะสม แยกหรือตัดธุรกิจที่ไม่ทำกำไรออกไป การปรับลดจำนวนเครื่องบินให้สอดคล้องกับเส้นทางการบินที่จะทำการบินระยะ 1-2 ปีข้างหน้า ทุกฝ่าย เชื่อมั่นว่า เมื่อการบินไทย ผ่านกระบวนการแผนฟื้นฟูดังกล่าวจะกลับมาแข็งแรงสามารถดำเนินการได้



สายการบินเอมิเรตส์ ยืนยันยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องปลดพนักงาน 30,000 คน



          โฆษกหญิงของสายการบินเอมิเรตส์ สายการบินขนาดใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง ชี้แจงเรื่องที่สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างแหล่งข่าวว่าสายการบินเอมิเรตส์ เตรียมปลดพนักงาน 30,000 คน หรือราวร้อยละ 30 ของบุคลากรประจำการอยู่ทั่วโลก โดยยืนยันว่า สายการบินเอมิเรตส์ ยังไม่มีมติอย่างเป็นทางการอยู่ระหว่างการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากรในการขับเคลื่อนกิจการให้เป็นไปอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและแผนยุทธศาสตร์ในอนาคต เมื่อเดือนมี.ค.สายการบินเอมิเรตส์ ระงับเที่ยวบินแทบทั้งหมด เนื่องจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประกาศเตรียมกลับมาให้บริการใน 9 เส้นทางของ 8 ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.  ได้แก่ กรุงลอนดอน เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เมืองมิลาน กรุงมาดริด เมืองโทรอนโต เมืองชิคาโก เมืองซิดนีย์และเมืองเมลเบิร์น รวมถึงการเป็นเที่ยวบินซึ่งมีฐานอยู่ที่นครดูไบ เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างผู้ที่ต้องการเดินทางระหว่างสหราชอาณาจักรกับออสเตรเลียด้วย ขณะที่ ปีงบประมาณที่แล้ว ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.สายการบินเอมิเรตส์ ยืนยันว่า มีกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 และจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานช่วงไตรมาสที่สี่ 



ตัวแทนร้านนวดไทย เรียกร้องรัฐบาลปลดล็อกร้านนวด



          นายพิทักษ์ โยธา ตัวแทนผู้ประกอบการสถานบริการเพื่อสุขภาพ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกฯ ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อขอให้พิจารณาผ่อนปรนหรือปลดล็อก กิจการประเภท นวดแผนไทย หรือนวดเพื่อสุขภาพ เนื่องจาก กิจการประเภทนวดเพื่อสุขภาพไม่ได้รับความเป็นธรรม และมีความลำบาก จากการล็อกดาวน์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ มองว่า กิจการประเภทนวดแผนโบราณหรือนวดเพื่อสุขภาพไม่ได้มีความแตกต่างจากกิจการประเภทเสริมความงาม เพราะเป็นการดำเนินการเกี่ยวกับร่างกายของคนเหมือนกัน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการทำใบหน้า แต่กิจการประเภทเสริมความงามกลับได้รับการผ่อนปรน จึงได้มายื่นหนังสือเรียกร้องพร้อมทั้งแนบรายชื่อผู้ประกอบการทั้งหมด  500 กว่ารายชื่อ พร้อมทั้งได้จัดอบรมและเตรียมความพร้อมด้านสุขอนามัยไว้แล้ว 



ญี่ปุ่น เริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจแล้ว



          นายยูอิชิ โคดามะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยเมจิ ยาสุดะของญี่ปุ่น เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาสแรกของปีนี้ติดลบร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจาก การหดตัวลงร้อยละ 6.4 เมื่อช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว หมายความว่าปีนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจแล้ว คาดว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก จะติดลบร้อยละ 22 ในไตรมาส 2 ระหว่างเดือนเม.ย.ถึง มิ.ย.



         ญี่ปุ่นไม่ได้ใช้วิธีล็อกดาวน์ทั่วประเทศ แต่ใช้วิธีประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศในเดือนเมษายน แต่นักวิเคราะห์มองว่ามาตรการนี้กระทบต่อภาคธุรกิจของญี่ปุ่นอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน เนื่องจาก ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พึ่งพาการค้าขายเป็นหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่น ยกเลิกภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ 39 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัด แต่แนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาส 2 ยังไม่สดใสมากนัก โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคได้รับผลกระทบทั้ง 2 ด้าน คือทั้งจากมาตรการขึ้นภาษีการค้าตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนจากเดิมร้อยละ 8 มาที่ร้อยละ 10 สถานการณ์ล่าสุด ญี่ปุ่นมีผู้ป่วยสะสม 16,285 คน เสียชีวิต 744 ราย



องค์การอนามัยโลก จัดประชุมนานาชาติคลี่คลายวิกฤตโควิด-19



          องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดประชุมสมัชชาสุขภาพโลก (WHA) ในรูปแบบของการประชุมทางไกลในวันนี้ (18 พ.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่อาจบั่นทอนความสามารถของประชาคมโลกในการแก้ไขวิกฤตโควิด-19 วาระการประชุมในครั้งนี้ ลดเวลาลงเหลือ 2 วันคือวันนี้และวันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) จากที่ในทุกปีจะจัดการประชุมเป็นเวลา 3 วัน โดยมีประมุขแห่งรัฐ, ผู้นำรัฐบาล รัฐมนตรีสาธารณสุขและบุคคลสำคัญอื่น ๆ จะเข้าร่วมการประชุมที่มีหัวข้อสำคัญคือวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 310,000 ราย และติดเชื้อเกือบ 4,700,000 คน



        นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ เป็นหนึ่งในงานที่มีความสำคัญที่สุดนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งองค์กรในปี 2491 แม้โอกาสในการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการระดับโลกในการจัดการกับวิกฤตจะมีไม่มากนัก เนื่องจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่าโควิด-19 มีที่มาจากห้องปฏิบัติการจีน และขู่ว่าจะตัดความสัมพันธ์กับจีน และยังระงับการจ่ายเงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลก เพราะเห็นว่าดำเนินนโยบายสนับสนุนทางการจีนมากเกินไป



        แม้จะมีความตึงเครียด แต่หลายประเทศได้แสดงความหวังว่าที่ประชุมจะมีมติในการแก้ไขปัญหา โดยสหภาพยุโรปเรียกร้องให้มีการประเมินสถานการณ์ที่เป็นกลางเป็นอิสระและครอบคลุม เพื่อให้ประชาคมโลกสามารถตอบสนองต่อวิกฤตที่เกิดขึ้นได้ รวมถึงการเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลกทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานระหว่างประเทศและประเทศอื่น ๆ เพื่อระบุแหล่งที่มาของไวรัสที่มีต้นกำเนิดจากสัตว์



 



 

ข่าวทั้งหมด

X