เกาหลีใต้ บังคับประชาชนในกรุงโซล-เมืองแทกู สวมหน้ากากอนามัย ฝ่าฝืนปรับสูงสุด 2 ล้านวอน

         สถานการณ์โรคโควิด-19 ในต่างประเทศ วันนี้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) หรือ ศบค. แถลงถึงสถานการณ์หลายประเทศ เริ่มจากเกาหลีใต้ นายจองอึน คยอง ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีใต้ใช้วิธีบังคับให้ประชาชนในกรุงโซล และเมืองอินชอน ใส่หน้ากากอนามัยเวลาที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะ เช่นเดียวกับที่เมืองแทกู ให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน ถ้าไม่ใส่หน้ากากอนามัยสั่งปรับสูงสุด 2 ล้านวอน หรือประมาณ 50,000 บาท เนื่องจาก มองว่า การหย่อนวินัยเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับโควิด-19 นอกจากนั้น หลายพื้นที่ในเกาหลีใต้ มีมาตรการอื่นๆ เช่น ห้ามสัมผัสตัวกันและบังคับให้คนที่ไปเที่ยวสถานที่ต้องสงสัยต้องไปตรวจโรค หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 2 ล้านวอน เช่นกัน

       ขณะที่ กรุงโซล ยังคงปิดสถานบันเทิงทุกแห่ง หลังจากเกิดการแพร่ระบาดจากการไปเที่ยวผับย่านอิแทวอน ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อจากกรณีนี้รวม 168 คนแล้ว

       ส่วนที่อิตาลี นายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ระบุว่า หากเปิดเศรษฐกิจแล้วโรคโควิด-19 กลับมาระบาดรอบ 2  ประชาชนก็ต้องยอมรับและรัฐบาลจำเป็นต้องปิดเมืองอีกครั้ง และในวันพรุ่งนี้ อิตาลี เตรียมอนุญาตให้ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สถานเสริมความงาม และพิพิธภัณฑ์ เปิดทำการ ส่วนสถานที่ออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำ จะอนุญาตให้เปิดในลำดับถัดไป

      ด้านอินเดีย เริ่มปิดธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. และขยายเวลาจนถึงวันที่ 31 พ.ค.เนื่องจากมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 96,169 คน เสียชีวิต 3,029 ราย กระทรวงมหาดไทยอินเดีย สั่งปิดโรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และสถานที่สาธารณะ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีบางจังหวัดที่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยน้อยลง