ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563

18 พฤษภาคม 2563, 06:18น.


อิสราเอล ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ การเสียชีวิตของทูตจีน



          การเสียชีวิตของนายตู้ เหว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำอิสราเอล วัย 57 ปี ภายในบ้านพักทางตอนเหนือของกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล ในช่วงเกิดเหตุ ภรรยาและบุตรชาย ไม่ได้อยู่ภายในบ้าน สำนักงานตำรวจกรุงเทลอาวีฟ แถลงว่า พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานพร้อมทั้งสอบปากคำพยาน เบื้องต้น ไม่พบสิ่งผิดปกติ



          สถานีโทรทัศน์ Channel 12 TV ของอิสราเอล รายงานอ้างแหล่งข่าวทางการแพทย์ที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า นายตู้ เสียชีวิตขณะนอนหลับจากสาเหตุตามธรรมชาติ



          ด้านกระทรวงการต่างประเทศในกรุงปักกิ่ง ของจีน ยังไม่แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการ นายตู้ เดินทางมารับตำแหน่งดังกล่าวเมื่อเดือน ก.พ. และมีรายงานว่าก่อนหน้าการเสียชีวิต นายตู้ มีท่าทีแข็งกร้าวต่อคำพูดของนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนอิสราเอล ไม่พอใจที่ระบุว่าจีนปิดข้อมูลเรื่องโรคโควิด-19   



หลายประเทศทั่วโลก ผ่อนคลายมาตรการปลดล็อก



          หลายรัฐในสหรัฐฯ ผ่อนคลายข้อจำกัดจากสถานการณ์โรคโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายคนเตือนว่า โรคโควิด-19 อาจกลับมาระบาดได้อีกครั้ง หากประชาชนไม่ระมัดระวังและกลับไปทำงานเร็วเกินไป



-ร้านอาหารในนิวออร์ลีนส์ ใช้วิธีจำกัดจำนวนการสำรองโต๊ะ หลังกลับมาเปิดให้บริการ  



-หลุยส์เซียนา เป็นหนึ่งในหลายๆ รัฐที่พยายามรีสตาร์ทเศรษฐกิจ หลังได้รับผลกระทบจากโควิด -19  

-นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก อนุญาตให้เปิดสนามแข่งม้า และอาจอนุญาตให้มีการแข่งขันเบสบอล โดยไม่มีผู้ชม



-รัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดสวนสาธารณะและกิจกรรมการเดินป่าเพิ่มเติมจากการผ่อนคลายมาตรการเฟส 2 ธุรกิจที่ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำสามารถเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง



-วันนี้ อิตาลี เริ่มเปิดให้บริการร้านค้า ร้านทำผม ร้านเสื้อผ้า รองเท้า และบาร์  อนุญาตให้เดินทางภายในภูมิภาคเดียวกันได้ และวันที่ 3 มิ.ย. รัฐบาลจะเปิดพรมแดน หลังประกาศล็อกดาวน์ตั้งแต่เดือนมี.ค.



-ฝรั่งเศส ต้องการให้ยุโรปร่วมมือกันผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ แต่ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนจากพื้นที่ที่มีการระบาดหนักเดินทางเข้ามา นายคริสตอฟ กาสเตเน รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส เตือนว่า หากรัฐบาลฝรั่งเศส เปิดชายหาดให้ว่ายน้ำ  ห้ามนอนอาบแดด หรือปิกนิก แต่หากพบว่าประชาชนไม่เคารพกฎเกณฑ์ก็จะปิดชายหาดทันที



-เจ้าหน้าที่และคณะกรรมการการท่องเที่ยวอังกฤษ ไม่สนับสนุนให้ประชาชนไปพักผ่อนบนชายหาด หรือสวนสาธารณะในช่วงสุดสัปดาห์แรกที่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รัฐบาลยังคงกฎที่เข้มงวดในบางพื้นที่ของอังกฤษ รวมถึงห้ามเดินทางแบบไปเช้า-เย็นกลับไปสกอตแลนด์ หรือ เวลส์ นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ถูกโจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับกลยุทธ์การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ผู้นำกลุ่มการเมืองท้องถิ่นทั่วพื้นที่ตอนเหนือร่วมกับสหภาพแรงงานคัดค้านแผนการเปิดโรงเรียนในวันที่ 1 มิ.ย.



-นายกฯ เปโดร ซานเชส ของสเปน เตรียมขอให้สภาฯขยายสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อต่อสู้ไวรัสโควิด-19 คาดว่า จะเป็นครั้งสุดท้าย ไปจนถึงราวกลางเดือนหน้า



-รัฐวิกตอเรีย รัฐที่มีประชากรอันดับ 2 ของประเทศออสเตรเลีย จะอนุญาตให้ร้านอาหารและผับเปิดอีกครั้งในวันที่ 1 มิ.ย. แต่ลูกค้าต้องแจ้งชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ก่อนเข้าร้าน ขณะนี้ มีเพียงรัฐวิกตอเรียและรัฐนิวเซาธ์เวลส์ที่ไม่ปิดพรมแดนระหว่างมาตรการล็อกดาวน์



CR:CNN



“ทรัมป์” อาจให้เงินช่วย WHO เพียง 10% จากระดับเดิม



          เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศระงับเงินช่วยเหลือองค์การอนามัยโลก( WHO) โดยอ้างว่า WHO ส่งเสริมจีน เรื่องการให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า คณะบริหารกำลังพิจารณาข้อเสนอเกี่ยวกับ WHO รวมถึงข้อเสนอหนึ่งที่ว่าสหรัฐฯจะจ่ายเงินช่วยเหลือเพียงร้อยละ 10 จากระดับเดิม หรือราวปีละ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย ขณะที่สื่อบางสำนักรายงานว่า นายทรัมป์ เตรียมที่จะให้เงินช่วยเหลือ WHO โดยจะปรับให้เท่ากับเงินช่วยเหลือของฝ่ายจีน



รัสเซีย พบทารกแรกเกิดติดเชื้อโควิด-19 เป็นรายที่2ของโลก



          สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซีย รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นทารกแรกเกิด ที่เมืองเบสลันในเขตสาธารณรัฐปกครองตนเองนอร์ทออสซีเชีย แถบเทือกเขาคอเคซัสของรัสเซีย เป็นรายที่สองของโลกที่พบทารกแรกเกิดติดเชื้อ รายแรกที่พบเกิดในประเทศเปรู เมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย.



          โฆษกกระทรวงสาธารณสุขในนอร์ทออสซีเชีย แถลงว่า แม่ของทารกรายดังกล่าวเป็นผู้ติดเชื้อ ขณะนี้ ทั้งสองคนพักฟื้นอยู่ที่บ้าน อาการเป็นที่น่าพอใจ นายฮัสซัน ทาเกียฟ หัวหน้าแผนกผดุงครรภ์โรงพยาบาลในนอร์ทออสซีเชีย กล่าวว่า จากการตรวจหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด 17คน จากทั้งหมด 35 คน พบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 



ผู้เชี่ยวชาญจีน เผย สธ.ในเมืองอู่ฮั่น ไม่ได้รายงานความจริงทั้งหมด



          นพ.ซ่ง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดและระบบทางเดินหายใจ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจฝ่ายบุคลากรทางการแพทย์ของจีน เพื่อต่อสู้กับโรคโควิด-19 เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่จีนจะเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกสอง เนื่องจาก ประชากรในประเทศส่วนใหญ่ "ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน" สถานการณ์เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในจีน ตอนนี้ "ไม่ได้ดีไปกว่าต่างประเทศ" เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเมืองอู่ฮั่น พื้นที่ซึ่งเป็น "กราวด์ซีโร่" ของโรคโควิด-19 ในจีน เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ไม่ได้รายงาน "ความจริงทั้งหมด" ในช่วงแรกที่โรคเกิดขึ้น



          อย่างไรก็ตาม นพ.ซ่ง เชื่อมั่นว่า แม้สถานการณ์ในช่วงแรกมีความขลุกขลัก ส่งผลให้ข้อมูล "มีความคลาดเคลื่อนไปบ้าง" แต่สถิตินับตั้งแต่เมืองอู่ฮั่น เข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์อย่างเบ็ดเสร็จเมื่อปลายเดือนม.ค."มีความถูกต้อง" และยืนยันว่าโลกจะมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แต่วัคซีนที่มีประสิทธิภาพอาจต้องรออีกนานหลายปี



ปักกิ่ง ออกกฎใหม่ ไม่ต้องสวมหน้ากากในที่สาธารณะ



           ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งกรุงปักกิ่ง ออกแถลงการณ์แก้ไขข้อปฏิบัติบางส่วนเกี่ยวกับการรักษาระยะห่างทางสังคมว่าจากนี้ประชาชน "ไม่จำเป็น" ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่นอกเคหสถาน แต่ยังต้องเว้นระยะห่างจากกันอย่างเคร่งครัด การปรับเปลี่ยนข้อปฏิบัติดังกล่าวน่าจะสอดคล้องกับคำแนะนำในการให้ประชาชนเพิ่มการออกกำลังกายและใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจตามสวนสาธารณะ "ในยามที่สภาพอากาศดี" เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย ไม่เพียงแต่เฉพาะโรคโควิด-19



กาตาร์ จำคุก 3 ปี ปรับสูงถึง 55,000 ดอลลาร์ฯ คนไม่สวมหน้ากากอนามัย



           กาตาร์ ประเทศเล็กๆในอ่าวเปอร์เซีย พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19แล้วกว่า 30,000 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 1.1 ของประชากร 2.75 ล้านคน แม้จะมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 15 ราย และพบว่ามีเพียงนครรัฐอย่าง ซาน มาริโน และ วาติกันเท่านั้นที่มีอัตราการติดเชื้อต่อหัวสูง ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อยุโรป รัฐบาลกาตาร์ ออกระเบียบใหม่ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องถูกลงโทษสูงสุดจำคุก 3 ปี และปรับเป็นเงินสูงถึง 55,000 ดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว 1.76 ล้านบาท



          ส่วนคนขับรถยนต์คนเดียว ได้รับการยกเว้นไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย แต่ชาวต่างชาติหลายคน เปิดเผยว่า ถูกตำรวจเรียกตรวจและแจ้งเตือนเรื่องระเบียบใหม่การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะว่าเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 17 พ.ค.



 



 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X