นายยาสุยุกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารพัฒนาเอเชีย(เอดีบี) คาดว่า มาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก ระหว่าง 5.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(หรือร้อยละ 6.4 ของจีดีพีทั่วโลก) ถึง 8.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือร้อยละ 10 ของจีดีพีทั่วโลก) ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกจะยาวนานเพียงใด และประเทศต่างๆมีมาตรการควบคุมโรคอย่างไร
ตัวเลขคาดการณ์ในครั้งนี้ สูงกว่าเดิมที่เคยประเมินไว้ เมื่อวันที่ 3 เมษายน ครั้งนั้น เอดีบี คาดว่า หากแต่ละประเทศสามารถควบคุมโรคได้ภายใน 3 เดือน ความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก ความเสียหายจะอยู่ระหว่าง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถึง 4.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมแนะนำให้แต่ละประเทศ ดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขและการคุ้มครองแรงงาน
เอดีบี คาดว่า แรงงานที่ถูกเลิกจ้างทั่วโลกประมาณ 158 ล้านคน ถึง 242 ล้านคน ในจำนวนนี้แรงงานส่วนใหญ่ร้อยละ 70 จะถูกเลิกจ้างในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีการใช้แรงงานจำนวนมาก พร้อมคาดว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะทำให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเอเชียแปซิฟิกลดลงร้อยละ 30 ของผลผลิตทั่วโลก สถาบันจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า เมื่อเวลา 17.36 น.ผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมทั่วโลก 4,444,670 คน เสียชีวิต 302,493 ราย
Cr: Bloomberg