บริษัทเอเย่นต์ขายตั๋วยืนยัน ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้การบินไทยขาดทุน

          กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการขายตั๋วสายการบินไทยของ 5 บริษัทเอเย่นต์ ว่าได้ค่าคอมมิชชั่นเป็นจำนวนมากถึงปีละ 18,000 ล้านบาท ในขณะที่บริษัท การบินไทย จำกัด ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก จนนำไปสู่การขอให้รัฐบาลค้ำประกันกู้เงิน เพื่อนำมาฟื้นฟูกิจการอย่างเร่งด่วน

         นายชูติวุฒิ สุวานิชย์กุล กรรมการผู้จัดการบริษัท มาแจ๊สติก แทรเวล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 1 ใน 5 บริษัทเอเย่นต์ที่ถูกกล่าวหา ชี้แจงว่า ข้อวิจารณ์นี้ไม่เป็นความจริง เพราะบริษัทการบินไทย ได้ยกเลิกค่าคอมมิชชั่นให้บริษัทเอเย่นต์มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทางบริษัทมาแจ๊สติก แทรเวล จึงต้องใช้วิธีการบวกค่าดำเนินการ หรือค่าบริการกับผู้โดยสารเองร้อยละ 5 แต่ยอมรับว่าเคยได้ค่าคอมมิชชั่น โดยในปี 2543 ได้ค่าคอมมิชชั่นร้อยละ 9 แต่ก็ลดลงมาเรื่อย ๆ จนยกเลิกไปในที่สุด ยืนยันว่าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทการบินไทยขาดทุน และแม้ว่าจะเกิดข้อครหาเหล่านี้ ก็จะไม่เลิกขายตั๋วของบริษัทการบินไทย เพราะคือสายการบินแห่งชาติที่มีผู้โดยสารมีความต้องการใช้บริการอยู่

          นายชูติวุฒิ กล่าวว่า จะดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้ที่เผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นความจริง เป็นการเขียนข่าวแบบมีอคติ ทำให้เกิดความเกลียดชังและบริษัทได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับประเด็นที่ระบุถึงการล็อกโควต้าและอื่น ๆ ที่ไม่เป็นความจริง เพราะในเวลาจองตั๋ว จะต้องจองสำรองที่นั่งผ่านระบบอะมาดิอุส โดยต้องระบุชื่อผู้โดยสาร หากมีที่ว่างก็สามารถจองตั๋วได้ หากไม่มีที่นั่งว่างก็จะต้องรอก่อน นอกจากนี้ยังมีการจองตั๋วแบบกลุ่มทัวร์ ที่จะต้องวางมัดจำก่อน และต้องกำหนดวันเดินทางเพื่อออกตั๋ว หากไม่มีการกำหนดวันเดินทางภายในเวลาที่สายการบินกำหนด ก็จะถูกยึดค่ามัดจำทันทีตามกฎกติกา ดังนั้นการจองตั๋วจะมีขั้นตอนเหมือนกันทุกสายการบินอยู่แล้ว

...