ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.ประจำวันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563
ผ่อนปรนเฟส2 เปิดได้ ก็ปิดได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า วันที่ 15 พฤษภาคม คณะกรรมการศูนย์ ศบค.จะไปตรวจเยี่ยมสถานที่ที่เตรียมการปลดล็อกระยะที่ 2 ว่ามีแผนปฏิบัติการตามมาตรการของรัฐและศบค.ครบถ้วนหรือไม่ หรืออาจมีมาตรการอื่นเพิ่มเติม เพื่อจะเป็นแบบอย่างให้สถานที่ประกอบการอื่นๆนำมาใช้ให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
อะไรก็ตามที่ เปิดได้ ก็ปิดได้ ไม่เช่นนั้นคนจะลืมตัวไปเรื่อยๆ ไม่ร่วมมือ ไม่รักษาระยะห่าง ไม่สวมหน้ากาก
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รับห่วงระบาดรอบสอง ที่ผ่านมา ศบค.ได้ใช้ชุดข้อมูลต่างๆ ทั้งหมดมาประชุมปรึกษากับภาครัฐ กระทรวงสาธารณสุข โดยนำเอกชนที่ดูแลงานด้านเศรษฐกิจและสังคมมาช่วยกันดูด้วย เป็นความละเอียดของชุดข้อมูล ไม่ได้ละเลย
ส่วนผลตรวจกิจการ/กิจกรรมประจำวันที่ 11 พฤษภาคมตรวจสอบทั้งสิ้น 20,091 แห่ง ปฏิบัติตามมาตรการ 14,134 แห่ง ในจำนวนนี้ปฏิบัติตามมาตรการแต่ไม่สมบูรณ์ 5,372 แห่ง ไม่ปฏิบัติตาม 585 แห่ง
ปัดสั่งทำโพลต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมยังกล่าวถึงการทำผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่องการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะยกเลิกหรือต่ออายุออกไปว่า เป็นการพิจารณาของศบค. โดยคำนึงถึงมาตรการด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ดังนั้น ไม่ว่าจะมีใครจัดทำโพลอะไรมา ก็เป็นเรื่องของแต่ละโพล แต่เท่าที่ทราบเห็นว่ามีบางสื่อไปจัดทำและพบว่ามีผู้เห็นชอบให้ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปถึงร้อยละ 88 และไม่เห็นชอบ ร้อยละ 12 ซึ่งยืนยันว่า เป็นการจัดทำกันเองของสื่อตนไม่ได้เกี่ยวข้อง
กทม.เอาจริงปิดทันทีกินเหล้าในร้าน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) กล่าวถึงการเตรียมปลดล็อกระยะที่ 2 ว่า ขอให้รอฟังความชัดเจนจากศบค. ซึ่งเป็นผู้พิจารณาและแจ้งให้ทราบอีกครั้ง โดย กทม.เตรียมพร้อมรับนโยบายและดำเนินการตามทันที ส่วนผู้ประกอบการทั้ง 42 รายในกิจการ-ร้านค้าที่ได้รับการผ่อนปรนไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้ทำตามมาตรการของกทม. ตอนนี้สั่งปรับปรุงและดำเนินการตามคำแนะนำเรียบร้อยแล้ว
ส่วนร้านค้าที่ฝ่าฝืนเปิดให้ประชาชนไปนั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน หากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบกิจการ/กิจกรรมที่ได้รับการผ่อนปรนไปตรวจพบ จะไม่มีการตักเตือน จะสั่งปิดร้าน พร้อมดำเนินคดีกับเจ้าของร้านและผู้ดื่มตามพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อทันที นอกจากนี้ ยังถือว่ามีความผิดตามประกาศปิดสถานที่ชั่วคราวของกรุงเทพมหานครด้วย
ประเมินผล 7 วัน ผ่อนปรนระยะแรก น่าพอใจ
นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์โควิด-19 หลัง ศบค.ผ่อนปรนมาตรการ และเปิดกิจการ/กิจกรรมระยะแรก ผ่านไป 7 วันว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 คงที่ จากการประเมินตัวเลขผู้ป่วย เพิ่มเล็กน้อย แต่ยังรับไม่ได้ อยู่ในสัญญาณเชิงบวก แต่ต้องสอบสวนโรค ดูที่มาที่ไปของผู้ป่วยว่าติดมาจากที่ไหนอย่างไร
ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยในพื้นที่ภาคใต้ วันนี้พบผู้ป่วยในกทม.1 คน หลังจากไม่พบมาระยะหนึ่งและยังไม่พบการละเมิดหรือฝ่าฝืน การรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนมากนัก แต่ก็เริ่มพบบ้างบางจังหวัด ก็ขอให้ทุกคนอดใจไว้ เรื่องนี้จังหวัดต้องตรวจสอบเข้มมาตรการ พร้อมยกกรณีผู้ป่วยติดเชื้อในญี่ปุ่น เมืองฮอกไกโด หลังผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง 26 วัน ก็กลับมาระบาดซ้ำระลอก 2 ไม่อยากให้ไทยเป็นแบบนั้น เพราะทั่วโลกคล้ายกัน ในส่วนการระบาดระลอกแรก เกิดการติดเชื้อจากผู้เดินทางจากต่างประเทศ แต่ระลอก 2 จากบทเรียนในต่างประเทศ เป็นการระบาดของคนในพื้นที่เอง
ยอด 2 หลักต้องทบทวนมาตรการ
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า จากการประเมินหลักวิชาการ หากสถานการณ์คงที่เช่นนี้ ในส่วนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่แบบนี้ สามารถผ่อนปรนมาตรการเปิดกิจการและกิจกรรมเฟส 2 ได้วันที่ 16-17 พฤษภาคม แต่มาตรการต่างๆที่ต้องเข้มคือ มีระยะห่างระหว่างบุคคล และสังคม สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ส่วนสัญญาณที่จะประเมินว่า ไม่น่าวางใจ และกลับสู่การระบาดระลอก 2 ไม่ใช่แค่จำนวนผู้ป่วยรายใหม่อย่างเดียว แต่ต้องดูผู้ป่วยติดเชื้อมาจากพื้นที่ใด
แต่หากพบผู้ป่วยที่มีตัวเลข 2 หลักใน รพ.เมื่อไหร่ แสดงว่าไม่น่าวางใจ ต้องทบทวนมาตรการทันที ขณะนี้กราฟตัวเลขผู้ป่วยยังไม่ก้าวกระโดด เชื่อว่าคนไทยขณะนี้ภูมิคุ้มกันโควิด-19 ยังไม่มาก การตรวจคัดกรองยังต้องเข้มเหมือนเดิม ฉะนั้นต้องเฝ้าระวังให้ดี
สถานการณ์ในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 2 คนทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,017 คน หายป่วยสะสม 2,798 คน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
คนไทยกลับมากสุดที่ด่านมาเลย์
คนไทยที่เดินทางเข้าประเทศทางชายแดน ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน-11พฤษภาคม สะสมรวม 10,298 คน ได้แก่ ด่านเมียนมา 691 คนด่านลาว 399 คน ด่านมาเลเซีย 8,912 คนและด่านกัมพูชา 296 คนในจำนวนนี้จะต้องเข้ากักกันในสถานที่ที่รัฐบาลจัดให้เป็นพื้นที่ในท้องถิ่น (Local quarantine) ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยมีผู้เดินทางเข้ามามากที่สุดคือ ด่านมาเลเซีย เป็นภาระงานที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งเป็นเหมือนการป้องกันไว้ ประเทศไทยเราหากลดการติดเชื้อจากนอกประเทศหรือนอกบ้านได้ เราจะมีสุขภาพที่ดีภายในบ้านเราด้วย
คลังเร่งช่วยเยียวยา 5,000บาท ยังพบตกหล่นอีก 1.7 ล้านคน
การรับเรื่องร้องเรียน ที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์ กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ เขตพญาไท กรุงเทพฯเมื่อวานนี้ เริ่มมีผู้ใช้บริการน้อยลง นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลัง กล่าวว่า หลังคลังได้โอนเงินเยียวยา 5,000 บาท ให้ผู้ที่ลงทะเบียนไปแล้วกว่า 11.8 ล้านคนซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นสาเหตุให้คนเดินทางมาร้องเรียนลดน้อยลง โดยกระทรวงการคลัง จะเร่งโอนให้ผู้ที่ตรวจสิทธิ์ผ่านแล้ว 14 ล้านคนภายในสัปดาห์นี้ ในส่วนที่เหลือ คาดว่าจะทยอยจ่ายวันละ 1 ล้านคน สำหรับการรับร้องเรียนที่กรมประชาสัมพันธ์ จะปิดในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ส่วนการทบทวนสิทธิ์กระบวนการต่างๆ จะเสร็จสิ้นในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทบทวนสิทธิ์กำลังตรวจสอบเรื่อง จะทราบว่าใครที่ได้สิทธิ์รับ 5,000 บาท หรือ ไม่ได้สิทธิ์ โดยคลังประเมินว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 16 ล้านคน
อย่าโยงเงินเยียวยากับการเมือง
นายกฯยังเรียกร้องว่า ต้องการความรักความสามัคคีของคนไทยทั้งหมด เผื่อแผ่แบ่งปันน้ำใจให้กันและกัน นั่นคือ นิวนอร์มอลใหม่ของประเทศไทย และส่วนใหญ่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลไปส่วนใหญ่ ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อการเมือง แต่ทำให้คนไทยที่เดือดร้อนจากโควิด ทั้งนี้ ต้องขอบคุณภาคธุรกิจที่ดูแลลูกจ้างพนักงาน พอสมควรและในส่วนรัฐบาลก็พยายามดูแลให้มากที่สุด
รับไม่ได้แย่งของตู้ปันสุขอย่าทำอีก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวชื่นชมภาคเอกชนที่ร่วมมือช่วยเหลือประชาชนและพนักงาน โดยเฉพาะการจัดทำตู้ปันสุข ซึ่งผู้รับสิ่งของเหล่านั้นต้องมีจิตสำนึกเฉลี่ยแบ่งปันให้คนอื่น ดังนั้น บางภาพที่ออกมาตนยอมรับไม่ได้ จึงขออย่าให้เกิดขึ้นอีกในสังคมไทย ซึ่งคิดว่าคนส่วนหนึ่งอยากช่วยเหลือสังคม พร้อมบริจาคสิ่งของใส่ตู้ปันสุข แต่ต้องทำให้สบายใจทั้งผู้ให้และผู้รับทั้งสองฝ่าย
ในช่วงเช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปที่วัดระฆังโฆษิตาราม เพื่อติดตามการเปิดศูนย์ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ของกรุงเทพมหานคร