ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563

13 พฤษภาคม 2563, 06:48น.


ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563



WHOเตือน ภูมิคุ้มกันหมู่ คุมโควิด-19 ไม่ได้



          นายไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการสาธารณสุขฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก กล่าวระหว่างแถลงสรุปเมื่อวันจันทร์ (11พ.ค.) ว่า ความคิดที่เชื่อว่า การมีภูมิคุ้มกันแล้วจะทำให้การแพร่ระบาดสู่คนอื่นๆลดลง จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ยังอาจจะไม่ได้ผล พร้อมเตือนว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มีความรุนแรงกว่าที่คิดไว้ และยังให้ข้อมูลใหม่จากเดิมที่เชื่อว่าสัดส่วนของผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการมีมากกว่าผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ป่วยอาการรุนแรง มีสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆของผู้ติดเชื้อทั้งหมด



          เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลก แสดงความเห็นครั้งนี้ ไม่ได้ระบุถึงประเทศใดโดยเฉพาะ แต่มีนัยยะสำคัญถึงในหลายประเทศเช่น สวีเดนและบางชาติที่ไม่เห็นด้วยกับการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขท้องถิ่นที่มั่นใจว่า ภูมิคุ้มกันหมู่จะรับมือโรคได้อย่างแท้จริง ระหว่างรอวัคซีนป้องกันโรค



          แนวคิดภูมิคุ้มกันหมู่นี้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่สื่อมวลชนหลายสำนักของสหรัฐฯ บางแห่งถึงขั้นเรียกร้องให้รัฐบาลของรัฐต่างๆยกเลิกข้อจำกัดอันเข้มงวดทั้งหมด และสนับสนุนประชาชนให้พัฒนาภูมิคุ้มกันหมู่สู้กับโรคระบาดใหญ่แทนที่จะเฝ้ารอคอยวัคซีน



           อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯที่ระบุว่า สหรัฐฯอาจต้องเผชิญกับความสูญเสียที่ไม่คาดคิดหากเลือกใช้ภูมิคุ้มกันหมู่แทนมาตรการล็อกดาวน์ เพราะขณะที่สหรัฐฯเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักที่สุดในโลก พบผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 1.4 ล้านคนและเสียชีวิตกว่า 82,000 ราย



โฆษกประธานาธิบดีรัสเซียป่วยโควิด-19



          สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ในรัสเซียน่าวิตกมากขึ้น นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เปิดเผยในวันอังคาร(12พ.ค.) ว่ามีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวกและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล พร้อมเปิดเผยว่า ตัวเขาได้พบกับประธานาธิบดีปูตินเป็นการส่วนตัวครั้งสุดท้ายเมื่อราวๆ 1 เดือนก่อน ส่วนสุขภาพของประธานาธิบดีปูตินได้รับการดูแลอย่างเข้มงวด หลังจากต้องทำงานที่บ้านพักส่วนตัวรอบนอกกรุงมอสโกและจะร่วมการประชุมต่างๆผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์



          สำหรับ นายเปสคอฟ ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลคนล่าสุดที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสติน เปิดเผยเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนว่าเขามีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวกและหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเพื่อพักฟื้น ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม นายโอลกา ยูบิโมวา รัฐมนตรีวัฒนธรรม ก็มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก เช่นเดียวกับ นายวลาดิมีร์ ยาคูเคฟ รัฐมนตรีก่อสร้างและหนึ่งในคณะผู้ช่วยของเขา



          ก่อนหน้านี้ เกิดไฟไหม้ที่โรงพยาบาล ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย ทำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยหนักเสียชีวิต 5 ราย เบื้องต้นคาดเกิดจากเครื่องช่วยหายใจทำงานหนัก จนไฟฟ้าลัดวงจร



          ล่าสุดรัฐบาลรัสเซียออกคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย และถุงมือเมื่อออกมาในที่สาธารณะ พร้อม ๆ กับการคลายมาตรการล็อกดาวน์ ที่กำหนดให้หยุดทำงาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19



          รัสเซีย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 10,899 คน ในวันอังคาร (12พ.ค.) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 232,243 คน แซงสเปน  ขึ้นไปรั้งอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว หากอ้างอิงจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮ็อปกินส์  พบว่า ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการค่อนข้างต่ำ หลังพบผู้เสียชีวิตแค่ 2,116 ราย แต่ผู้เชี่ยวชาญบางส่วน เชื่อว่า ตัวเลขดังกล่าวน่าจะต่ำกว่าความเป็นจริง



ยอดคนตายในฝรั่งเศสเพราะโควิด-19 ขยับแซงหน้าสเปนแล้ว



          ฝรั่งเศส แซงหน้าสเปน เป็นชาติที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 348 รายในวันอังคาร (12พ.ค.) ยอดตายสะสมเป็น 26,991 ราย เป็นรองเพียงสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักรและอิตาลี



          ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของสหรัฐฯอยู่ที่ 82,227 รายสูงสุดในโลก รองลงมาคือ สหราชอาณาจักร 32,769 ราย อันดับ 3 เป็นของอิตาลี 30,911ราย และอันดับ 4 ได้แก่ฝรั่งเศส และอันดับ 5 สเปน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 26,920 ราย



          ยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มในฝรั่งเศสเกิดขึ้น หลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศได้เพียง 2 วัน รัฐบาลของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ย้ำว่าพวกเขาพร้อมยกระดับมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นอีกครั้งหากว่ามีความจำเป็น



FBI กล่าวหา แฮกเกอร์จีน ล้วงข้อมูลพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19



          สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงไซเบอร์เชื่อว่าแฮกเกอร์จีนกำลังพยายามขโมยข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่



          หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล และนิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า เอฟบีไอและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ มีแผนออกหนังสือเตือนเกี่ยวกับปฏิบัติการของแฮกเกอร์จีน ในขณะที่รัฐบาลและบริษัทเอกชนทั่วโลกกำลังเร่งคิดค้นวัคซีนที่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ พร้อมเชื่อว่า แฮกเกอร์จีนกำลังพุ่งเป้าไปที่ข้อมูลและทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับวิธีรักษาและการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และคาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะออกคำเตือนอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วัน



          ด้านนายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน รีบออกมาปฏิเสธ และยืนยันว่ารัฐบาลจีนต่อต้านการโจมตีทางไซเบอร์ทุกรูปแบบ



          สัปดาห์ที่แล้ว อังกฤษและสหรัฐฯ ได้ออกคำแถลงร่วมเพื่อเตือนว่าบุคลากรทางการแพทย์ที่มีบทบาทสำคัญในการตอบสนองวิกฤตไวรัสโคโรนากำลังตกเป็นเหยื่อการโจมตีทางไซเบอร์



ราคาน้ำมันโลก ปรับขึ้น - หุ้นสหรัฐฯตก หลังแพทย์สหรัฐฯเตือนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไปอันตราย



          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลท์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 25.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ ปิดที่ 29.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยมีปัจจัยจากการลดกำลังการผลิตภายใต้ข้อตกลงโอเปกพลัส รวมถึงซาอุดีอาระเบียที่ลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม คาดว่า ในเดือนมิถุนายนจะผลิตน้ำมันเหลือเพียง 7.492 ล้านบาร์เรลต่อวัน



          ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(12พ.ค.) ปิดลบแรง หลังแพทย์ใหญ่ของทำเนียบขาวเตือนเกี่ยวกับการยุติมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไป ระบุอาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ร้ายแรงอย่างแท้จริง ในนั้นรวมถึงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 457.21 จุด  ปิดที่ 23,764.78 จุด



          ก่อนหน้านี้ นพ.แอนโธนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เตือนระหว่างให้ปากคำกับคณะกรรมมาธิการสภาคองเกรส เกี่ยวกับการเดินหน้าเปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไป ที่จะทำให้เกิดความสูญเสียมากขึ้นไม่ใช่แต่ชีวิตคนแต่รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจด้วย



          ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(12พ.ค.) ปิดบวกพอสมควร ได้แรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,706.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวทั้งหมด

X