หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบการใช้เงินกู้จากพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อใช้เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วันนี้ ครม.ได้เห็นชอบวงเงินอีก 4 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ตามกรอบนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นผู้เสนอ
ด้านนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า เงินกู้ 4 แสนล้านบาทที่ครม.เห็นชอบวันนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างยั่งยืน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยเน้น 3 ประเด็น คือ
1. สร้างความเข้มแข็งเพื่ออนาคตของประเทศ จากความได้เปรียบของประเทศไทยในเรื่องสินค้าเกษตรและอาหาร เช่น เกษตรแปรรูป
2. เน้นความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก เพื่อสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจชุมชนรองรับแรงงานในภูมิภาค
3. เน้นความยั่งยืน เพราะในอนาคตจะเกิดชีวิตวิถีใหม่ขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลจะพยายามให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ คือประมาณเดือนกรกฎาคมนี้เพื่อต่อเนื่องกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 และ 2565 นอกจากนี้ นำเงินกู้ไปกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วยังจะนำไปรองรับสถานการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นการดูแลแหล่งน้ำในชุมชน พร้อมยืนยันว่า การเบิกจ่ายงบประมาณจะเน้นเรื่องความโปร่งใสตรวจสอบได้ทั้งระบบ นอกจากภาครัฐที่ตรวจสอบแล้ว จะให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกรอบวงเงินกู้ 4แสนล้านบาท แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินหมด จะเลือกเฉพาะโครงการที่สำคัญเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของไทยให้ก้าวหน้ายั่งยืนต่อไป