หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช. ที่สั่งให้มีการเผาทำลายของกลางยาเสพติดให้บ่อยครั้งขึ้น ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จะมีการเผาทำลายยาเสพติด เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี หลังจากที่ครั้งแรกมีไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน2557 ซึ่งตรงกับวันต่อต้านยาเสพติดสากล โดยครั้งนี้ จะมีการเผายาเสพติดฯ ในวันที่ 18ธันวาคม นับเป็นครั้งที่ 44 ของการเผยทำลายยาเสพติดฯ ที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรม บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ในปีนี้ มีของกลางยาเสพติด เช่น ยาบ้า ,ไอซ์ ,เฮโรอีน ,ฝิ่น ,ยาอี รวมน้ำหนักกว่า 2,167กิโลกรัม จาก 1,059คดี มูลค่าถึง 6,565ล้านบาท ในวันเดียวกันจะมีของกลางยาเสพติด ประเภทกัญชา จากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จำนวน 2,933กิโลกรัม มูลค่า 7ล้านบาท และจากจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 2,546กิโลกรัม มูลค่า 6ล้านบาท ร่วมเผาทำลายด้วย
จากนั้น เจ้าหน้าที่ ของคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้นำสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบ ห้องนิรภัยจัดเก็บยาเสพติดก่อนเผาทำลาย ซึ่งเป็นห้องที่มีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด มีการติดตั้ง กล้องวงจรปิดทั่วทุกมุมทั้งภายในและภายนอกห้อง มีระบบสัญญาณเตือนเมื่อมีสิ่งแปลกปลอม ที่จะส่งสัญญาณเตือนไปยังสถานีตำรวจใกล้เคียงหากพบสิ่งแปลกปลอมหรือผู้บุกรุก ห้องนิรภัยนี้จะมีประตูนิรภัยถึง 2ชั้น ซึ่งผู้บริหารของกระทรวงฯจะเป็นผู้ถือกุญแจถึง 6คน และภายในคลังเก็บยาเสพติดนั้นจะถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบในชั้นลูกกรงเหล็กที่มีกุญแจล็อกไว้อีกชั้น
นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการ อย. เปิดเผยว่า ปัจจุบันยาเสพติดที่ทาง อย. เก็บรักษามีมากถึง 4หมื่นกว่ากิโลกรัม ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีของ ปริมาณของกลางที่มีจำนวนมาก ทำให้ทางกระทรวงสาธารณสุข ต้องขออนุมัติงบประมาณกว่า 100ล้านบาท เพื่อสร้างห้องนิรภัยไว้เก็บของกลางหลังใหม่ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการประมูลของบริษัทที่รับเหมา โดยสามารถเก็บของกลางได้มากถึง 100ตัน และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2560