ก.คลัง ยืนยัน สัปดาห์นี้เคลียร์หมดเงินเยียวยา 5,000 บาท

          นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สรุปความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท เราไม่ทิ้งกัน 

1. มีผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว 14.0 ล้านคน คาดว่า จะสามารถจ่ายเงินเยียวยาให้ได้ทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้

2. วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม จะมีการโอนเงินให้ผู้ผ่านเกณฑ์อีกประมาณ 1.6 ล้านคน รวมถึงกลุ่มที่ข้อมูลบัญชีไม่ถูกต้องและได้เปลี่ยนแปลงวิธีการรับเงินเป็นช่องทางพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว

3. การปิดทบทวนสิทธิคืนวันที่ 10 พฤษภาคม เวลา 24.00 น. สรุปมีผู้ขอทบทวนสิทธิรวมทั้งสิ้น 6.5 ล้านคน

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ขอทบทวนสิทธิที่ผู้พิทักษ์สิทธิลงพื้นที่แล้วแต่ไม่พบตัว เนื่องจาก ปัจจุบันไม่ได้อยู่ตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้ตอนขอทบทวนสิทธิ กรณีนี้จะส่งต่อข้อมูลให้ผู้พิทักษ์สิทธิในจังหวัดที่อยู่ในขณะนี้รับไปเป็นผู้ดูแลต่อไป ซึ่งจะใช้เวลาในการดำเนินการเพิ่มขึ้นบ้าง

4. กลุ่มขอข้อมูลเพิ่มเติมมีผู้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว 6.1 ล้านคน ยังขาดอีก 4 แสนคน

5. กระทรวงการคลัง คาดว่า ภายในวันที่ 17 พฤษภาคม จะสามารถบริหารจัดการข้อมูลผู้ลงทะเบียนทั้งหมดให้แล้วเสร็จได้ในระดับร้อยละ 98-99 อาจมีกลุ่มที่ตกค้างบ้าง เช่น กลุ่มที่ขอข้อมูลเพิ่มเติมแต่ยังไม่ได้เข้ามาให้ข้อมูลตามขอ

ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้าไทย เม.ย.ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

          นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือน เม.ย. อยู่ที่ 32.1 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 28 จากเดือนมี.ค.อยู่ที่ 37.5 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เท่าที่เคยมีการสำรวจมา  เป็นผลมาจากเศรษฐกิจของประเทศที่ลดลงในทุกด้าน ดัชนีปรับลดลงทุกรายการ ทั้งด้านการบริโภค การลงทุน การท่องเที่ยว ภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้าและบริการ เป็นต้น

          ผลกระทบในด้านลบ ประกอบด้วย สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงไม่ถึง 10 คนต่อวัน  รวมถึงการใช้มาตรการ lockdown ในหลายจังหวัด การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการสั่งปิดกิจกรรมบางประเภท ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจส่งผลกระทบกับภาคการเกษตร และการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคของประชาชน ปัญหาการว่างงานจากการประกาศปิดธุรกิจในบางประเภทที่ไม่สามารถแบกรับปัญหาของเศรษฐกิจในปัจจุบัน หากสถานการณ์ยังคงยืดยาวออกไป นอกจากนี้ ยังขาดรายได้ และสภาพคล่องจากการประกอบกิจการของธุรกิจขนาดเล็กขนาดกลาง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลง รวมทั้งรายได้ของผู้บริโภคชะลอตัวลง ทำให้การจับจ่ายใช้สอยชะลอตัวลง  

          ด้านปัจจัยบวก ประกอบด้วย มาตรการรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการในสถานการณ์โควิด-19 การส่งออกของไทยเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.17 มูลค่าอยู่ที่ 22,404 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.25 มีมูลค่า 20,812 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้เกินดุลการค้า 1,592 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

          ทั้งนี้ หอการค้าไทย เสนอแนวทางการดำเนินการในการแก้ไขปัญหา เช่น การเร่งมาตรการผ่อนปรนการเปิดกิจการ เพื่อให้ธุรกิจไม่หยุดชะงัก คลายล็อกดาวน์ในพื้นที่ มาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ควรครอบคลุมประชาชนที่เดือดร้อนอย่างแท้จริง รวมถึงมาตรการรองรับธุรกิจที่ได้รับความเดือดร้อนจนถึงขั้นต้องปิดกิจการลงชั่วคราว ทำให้มีความจำเป็นต้องปลดพนักงานบางส่วนลง และหากสถานการณ์ยังคงอยู่อีกนานจะทำให้ต้องปิดกิจการถาวรในอนาคต และแผนการจัดสรรดูแลแหล่งน้ำสำหรับการเกษตรและอุปโภคบริโภคให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง 

น้ำมันโลก - ราคาทอง ลดลง ส่วนหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสาน จับตาสถานการณ์โควิด-19

          -สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 24.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          -เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

           รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย สั่งการให้ซาอุดี อารามโก ลดกำลังการผลิตน้ำมันเป็นพิเศษและโดยสมัครใจอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลทำให้กำลังการผลิตของซาอุดีอาระเบียลดลงจากระดับการผลิตเดือนเมษายน ราวๆ 4.8 ล้านบาร์เรล

          การลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมดังกล่าว จะทำให้ซาอุดีอาระเบีย ผลิตน้ำมันที่ระดับ 7.492 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมัน ในวันจันทร์(11พ.ค.) เคลื่อนไหวในแดนลบ เพราะนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับพลังงานโลกที่ลดลง ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 แม้หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้วก็ตาม

          ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดผสมผสาน หลังจากนักลงทุนชั่งน้ำหนักระหว่างตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ยังเพิ่มขึ้น กับความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้

-ดาวโจนส์ ลดลง 109.33 จุด หรือร้อยละ 0.45 ปิดที่ 24,221.99 จุด

-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.52 จุด หรือร้อยละ 0.02 ปิดที่ 2,930.32 จุด

-แนสแดค เพิ่มขึ้น 71.02 จุด หรือร้อยละ 0.78  ปิดที่ 9,192.34 จุด

          ความกังวลเกิดขึ้นหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีน, เกาหลีใต้ และเยอรมนี ดีดตัวขึ้นอีกครั้ง หลังรัฐบาลประกาศคลายมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ

         ราคาทองคำ  ปิดลบแรง จากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น นักลงทุนจับตาความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน และความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับการผ่อนปรนล็อกดาวน์ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 15.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,698.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์