ทำเนียบขาว แถลงให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ยืนยันมีมาตรการคัดกรองที่เข้มงวด

          สำนักงานบริหารทรัพยากรบุคคลของทำเนียบขาว สหรัฐฯ ระบุว่า บุคลากรทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า หรือใช้สิ่งใดก็ตามป้องกันจมูกและปากของตัวเองให้มิดชิด ตลอดเวลาที่อยู่ในปีกตะวันตกของทำเนียบขาว สหรัฐฯ สถานที่ตั้งของห้องทำงานรูปไข่ สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ห้องประชุมส่วนกลาง และวอร์รูม การถอดหน้ากากอนามัยอนุญาตเฉพาะเมื่อนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะเท่านั้น ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องรักษาระยะห่างจากเพื่อนร่วมงานตามแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุข มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังนางเคที มิลเลอร์ โฆษกประจำตัวรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และหนึ่งในเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก

          ด้านนายอเล็กซ์ อาซาร์ รมว.กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ สวมหน้ากากอนามัย ระหว่างร่วมแถลงข่าว ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ เป็นคนเดียวที่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย แถลงว่า มาตรการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในปีกตะวันตกของทำเนียบขาวเป็นความต้องการของเขาเอง และยืนยันว่าภายในสถานที่แห่งนี้ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการคัดกรองด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค นายทรัมป์ ปฏิเสธ ว่าไม่มีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนภายในทำเนียบขาว และตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ยังไม่ได้เจอหน้านายเพนซ์ ใช้วิธีติดต่อกันผ่านโทรศัพท์ภายใน แม้นายเพนซ์เข้ามาทำงานในทำเนียบขาวตามปกติเมื่อวันจันทร์ แต่ไม่ได้ร่วมการแถลงข่าวประจำวันเกี่ยวกับโรคโควิด-19 เนื่องจาก อาจจะต้องรักษาระยะห่าง

         ขณะที่ น.ส.เจียง เหว่ยเจี้ย ผู้สื่อข่าวหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายจีนของซีบีเอส ถามผู้นำสหรัฐฯ ว่าเพราะเหตุใดต้องคอยย้ำเสมอว่า สหรัฐฯ ทำได้ดีกว่าประเทศอื่น ในเรื่องการตรวจคัดกรอง ทั้งที่เรื่องแบบนี้ไม่ควรนำมาเปรียบในเชิงแข่งขัน ซึ่งนายทรัมป์ ตอบว่า "คำถามน่ารังเกียจแบบนี้ควรให้จีนตอบ" แล้วหันหลังเดินกลับทันที