ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2563

12 พฤษภาคม 2563, 05:38น.


จีน สั่งปลดเจ้าหน้าที่ในเมืองอู่ฮั่น หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 



          ทางการจีน สั่งปลด นายจาง อู่ซิน เจ้าหน้าที่เมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน หลังจากมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 6 คน สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายจาง ถูกปลดออกจากตำแหน่งเนื่องจากบริหารงานขาดประสิทธิภาพในการปิดพื้นที่และควบคุมดูแลย่านซานมิน ย่านชุมชนสำหรับการพักอาศัย ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของ Changqing Street ที่นายจาง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการและคณะกรรมการประจำ Changqing Street ภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์จีน สถานการณ์ผู้ติดเชื้อเมื่อเวลา 05.34 น. สถาบันจอห์น ฮอปกิน รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อสะสม 84,010 คน เสียชีวิต 4,637 ราย  



โรงเรียนในปักกิ่ง ทดลอง “กำไลวัดอุณหภูมิ”



          เทศบาลกรุงปักกิ่ง ของจีน เริ่มแคมเปญ "กำไลวัดอุณหภูมิ" แจกให้โรงเรียนทั่วเมืองหลวง เป็นมาตรการล่าสุดของภาครัฐในการควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยมีโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาใน 5 เขตเป็นพื้นที่นำร่อง รวมถึงโรงเรียนมัธยมศึกษา 18 แห่งที่เขตเฟิงไถ การทำงานของกำไล คือการวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้สวมใส่ตามเวลาจริง ขณะที่ โรงเรียนและผู้ปกครองสามารถตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายของเด็กที่สวมใส่ได้ตลอดเวลา ผ่านแอปพลิเคชั่นซึ่งผู้พัฒนาออกแบบให้รองรับการทำงานของกำไล เมื่ออุณหภูมิร่างกายของเด็กสูงเกิน 37.2 องศาเซลเซียส กำไลจะส่งสัญญาณฉุกเฉินเตือนไปที่ครูในกรณีที่เด็กยังอยู่ที่โรงเรียน เพื่อให้โรงเรียนแจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่อไป



          การสวมหน้ากากอนามัย การรักษาระยะห่างระหว่างกัน และการเดินผ่านจุดคัดกรองอุณหภูมิที่หน้าประตูโรงเรียน กลายเป็น "นิวนอร์มอล" หรือการดำเนินวิถีชีวิตแบบใหม่ของนักเรียนทั่วจีน ตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย.เงื่อนไขสำคัญของการผ่านระบบเทอร์โมสแกนตามทางเข้าโรงเรียน นักเรียนและบุคลากรต้องแสดงรหัสด้านสุขภาพจากแอปพลิเคชั่นที่ภาครัฐจัดทำขึ้น ซึ่งจะประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ของผู้ใช้งานตามข้อมูลการเดินทางที่ต้องแสดงสีเขียว ที่หมายถึง ปกติ



CR:Xinhua-China



สองเมืองใหญ่รัสเซียต่อเวลาล็อกดาวน์ถึงสิ้นเดือนนี้



          ศูนย์ตอบสนองวิกฤตเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของรัสเซีย ยืนยันตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ 11,656 คน ถือเป็นสถิติรายวันสูงสุดรอบใหม่ และเพิ่มสถิติผู้ป่วยสะสมเป็นอย่างน้อย 221,344 คน  รัสเซียรายงานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากกว่าวันละ 10,000 คน ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ขณะเดียวกันมีการยืนยันผู้เสียชีวิตอีก 94 ราย เพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเป็นอย่างน้อย 2,009 ราย จำนวนผู้ได้รับการรักษาหายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 39,801 คน และสถิติการตรวจคัดกรองเพิ่มเป็นมากกว่า 5.6 ล้านตัวอย่าง



           ขณะที่ นายอเล็กซานเดอร์ เบกลอฟ ผู้ว่าราชการเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัสเซีย ต่อเวลามาตรการล็อกดาวน์จนถึงวันที่ 31 พ.ค. และประชาชนในพื้นที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.นี้เป็นต้นไป



          มาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับเทศบาลกรุงมอสโก เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ประกาศมาตรการดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว



          ขณะที่ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แถลงผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ละพื้นที่ต้องดัดแปลงแนวทางของตนเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของแต่ละท้องถิ่น เช่น ในกรุงมอสโก ที่จะคงมาตรการล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม นายปูติน แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ระบุว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะเริ่มยกเลิกข้อจำกัดต่างๆที่บังคับให้ประชาชนจำนวนมากทำงานจากที่บ้านและภาคธุรกิจทั้งหลายต้องปิดทำการชั่วคราว ยอมรับว่าจำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 1.4 ล้านคนในเวลาเพียงเดือนเดียว และเขาต้องการหยุดไม่ให้ตัวเลขพุ่งสูงไปกว่านี้ ด้วยการอนุญาตให้บางภาคส่วนของเศรษฐกิจ เช่น การก่อสร้างและเกษตรกรรมกลับมาทำงานได้ แต่ยังห้ามการจัดกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ขอให้ชาวรัสเซียที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปอยู่ในบ้าน



โควิด-19 เริ่มกลับมาระบาดรอบ 2 ในเยอรมนี



          สถาบันโรเบิร์ต ค็อก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเยอรมนี เผยแพร่รายงานว่า อัตราเฉลี่ยการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเยอรมนีเพิ่มจาก 0.65 เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ขึ้นมาเป็น 1.1 หมายความว่า ผู้มีเชื้ออยู่ในร่างกาย 10 คน สามารถแพร่เชื้อให้กับบุคคลรอบข้างอีก 11 คน หรือแทบจะ 1 ต่อ 1 ทั้งนี้ การควบคุมโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ค่าระดับการติดเชื้อพื้นฐานต้องต่ำกว่า1 เป็นช่วงระยะเวลาพอสมควร 



          เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเยอรมนี ตรวจพบว่ามีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนครั้งใหม่ ที่โรงฆ่าสัตว์หลายแห่ง เช่น ที่รัฐนอร์ดไรน์-เวสต์ฟาเลน ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในประเทศ ที่โรงงานแห่งนี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 200 คน จากจำนวนพนักงานทั้งหมด 1,200 คน และยังพบการติดโรคแบบกลุ่มตามศูนย์ดูแลผู้สูงอายุอีกหลายแห่งด้วย แม้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในเยอรมนีจะกลับมาวิกฤต อีกครั้งหรือไม่ แต่รายงานของสถาบันโรเบิร์ต ค็อก ระบุว่า ต้องติดตามแนวโน้มการพบผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศอย่างใกล้ชิด การเผยแพร่รายงานของโรเบิร์ต ค็อก เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล กล่าวว่า เยอรมนีผ่านพ้นการแพร่ระบาดระยะแรกของโรคโควิด-19 รัฐบาลท้องถิ่นของหลายรัฐจึงเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์



          รัฐบาลท้องถิ่นของทั้ง 16 รัฐในเยอรมนีเห็นพ้องกับนางแมร์เคิล ว่าจะกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดอีกครั้งหากอัตราการแพร่ระบาดในเมืองใดก็ตามเพิ่มเป็น 50 คนต่อประชากร 100,000 คนภายใน 1 สัปดาห์ รายงานของโรเบิร์ต ค็อก ระบุว่า ขณะนี้เกิดขึ้นแล้วอย่างน้อยใน 3 เมือง สถานการณ์ล่าสุด มีผู้ติดเชื้อสะสม 172,517 คน เสียชีวิต 7,653 ราย 



รัฐนิวยอร์ก ออกกฎใหม่สำหรับบ้านพักคนชรา หลังพบยอดเสียชีวิตสูง



          นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ แถลงว่า สิ่งสำคัญเร่งด่วนในขณะนี้คือปกป้องชีวิตคนในบ้านพักคนชรา เนื่องจากพบว่า คนในบ้านพักคนชราเสียชีวิตจากโควิด-19 ถึง 25,000 ราย หรือร้อยละ 38 ของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้งหมดในสหรัฐฯที่มีเกือบ 80,000 ราย ซึ่งมากที่สุดในโลก ดังนั้น จึงออกกฎใหม่ให้ตรวจโควิด-19 ในบ้านพักคนชราสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และหากบ้านพักคนชราใด ไม่มีที่เพียงพอสำหรับการกักกันผู้ติดเชื้อ ให้เร่งส่งไปยังสถานที่กักกันอื่นๆ โดยเร็ว หากไม่ทำตามกฎใหม่นี้ อาจถูกยับยั้งใบอนุญาตหรือยึดใบอนุญาตคืนทันที และสั่งห้ามญาติเข้าเยี่ยมคนชราในบ้านพัก ยกเว้นแต่จะเป็นการเยี่ยมเพื่อดูใจเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น และย้ำว่ากฎนี้เข้มงวด แต่ก็จำเป็นสำหรับปกป้องผู้ที่เปราะบางที่สุด สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,345,307 คน เสียชีวิต 80,239 ราย   



อินโดฯ ร่างแผนสูงถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ฯ ช่วยสายการบินแห่งชาติ



          ทางการอินโดนีเซีย กำลังร่างแผนช่วยเหลือสายการบินการูดา สายการบินแห่งชาติที่ต้องจอดฝูงบินเกือบทั้งหมดเพราะโรคโควิด-19 มูลค่าสูงสุดถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 32,164 ล้านบาท นายการ์ติกา วีร์โจอัตมอดโจ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงรัฐวิสาหกิจ รายงานว่า แผนดังกล่าวประกอบด้วย



-การปรับโครงสร้างหนี้ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 16,082 ล้านบาท



-การให้สินเชื่อ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้สายการบินการูดา ดำเนินงานได้อีก 6 เดือน สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า เดือนหน้าสายการบินการูดา มีแนวโน้มจะผิดนัดชำระพันธบัตรอิสลามและนักลงทุนจะต้องเลือกระหว่างยืดอายุกำหนดชำระหนี้ออกไปอีกสามปีหรือแผนการชำระหนี้แบบเหลื่อมเวลา  



          สายการบินการูดา ตั้งขึ้นเมื่อปี 2490 เป็นสายการบินของรัฐ มีฝูงบินกว่า 200 ลำ สถานการณ์โควิด-19 ระบาดกระทบการเดินทางทั่วโลก ทำให้ต้องลดเงินเดือนพนักงานชั่วคราว



 

ข่าวทั้งหมด

X