ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563

11 พฤษภาคม 2563, 13:45น.


กรมชลฯ สั่งทุกโครงการฯทั่วประเทศ ปรับการระบายน้ำ ช่วงที่อุตุฯเตือนพายุฤดูร้อน  



          ฝนตกหลายในพื้นที่กรุงเทพฯและหลายจังหวัดตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนเรื่องพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 11-13 พฤษภาคม 2563 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้



         นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศ และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ โดยให้บุคลากรประจำอยู่ในพื้นที่ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนทันที และได้เน้นย้ำให้บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หากมีฝนตกลงมาบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำ ย่อมจะส่งผลดีในการเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก รวมทั้งปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำสายหลักต่างๆด้วย ทำให้มีปริมาณน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้น สำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภค รวมถึงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่การเกษตร การรักษาระบบนิเวศ และการผลักดันค่าความเค็มด้วย อย่างไรก็ตาม จะต้องบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมอย่างเคร่งครัดและปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับฝนที่ตกลงมา โดยไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ



        นอกจากนี้ กำชับให้โครงการชลประทาน ตรวจสอบอาคารชลประทานทุกแห่ง ให้สามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพ รวมทั้งการกำจัดวัชพืชไม่ให้กีดขวางทางน้ำ  การติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง เพื่อบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้เป็นไปตามเกณฑ์การเก็บกัก ที่สำคัญได้เน้นย้ำให้มีการแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม- น้ำล้นตลิ่ง อีกทั้ง ยังให้จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ประจำไว้ในพื้นที่แล้ว หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา



ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ลดลง รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย เตรียมเปิดเมือง-ระบบคมนาคม



         สถานการณ์ที่ออสเตรเลีย ผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 6,948 คน เสียชีวิต 97 ราย เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า พื้นที่ที่มีตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ลดลงต่อเนื่อง เช่น รัฐวิกตอเรีย รวมทั้งเมืองเมลเบิร์น จะเริ่มเปิดเมืองและระบบคมนาคมตามปกติ ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันอังคารนี้ ยกเว้นร้านอาหาร ที่จะปิดต่อไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน



          ส่วนพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการตั้งแต่วันศุกร์นี้ 15 พฤษภาคม อนุญาตให้หลายพื้นที่เปิดได้ เช่น



-โรงเรียน



- ห้างร้าน



-ห้องสมุด



- สระว่ายน้ำ



-ระบบคมนาคม



          นอกจากนี้ ประชาชน สามารถไปเยี่ยมเพื่อนหรือครอบครัวได้ทั่วประเทศ แต่รัฐบาลจะรณรงค์ให้ประชาชนใช้วิธีเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง หวั่นเกรงโรคโควิด-19 จะกลับมาแพร่ระบาดระลอกที่ 2



          ส่วนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ รวมถึงซิดนีย์ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์มาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ประชาชนสามารถไปเยี่ยมบ้านญาติหรือเพื่อนในท้องถิ่น หรือไปเที่ยวชายหาด อนุญาตให้ร้านอาหารเปิดให้บริการตามปกติตั้งแต่วันศุกร์นี้ แต่ยังจำกัดให้มีลูกค้านั่งรับประทานอาหารในร้านไม่เกิน 10 คน ซึ่งภาครัฐจะใช้มาตรการจำกัดจำนวนลูกค้าที่นั่งในร้านอาหารไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน



โฆษกทำเนียบขาว ตอบโต้ข่าว รองผู้นำสหรัฐฯ โดนกักตัว



          กรณีที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กเป็นสื่อแห่งแรกที่รายงานว่า เมื่อวานนี้ รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐฯ เข้าสู่กระบวนการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน และในระหว่างนี้จะทำงานจากที่บ้าน หลังจากที่นางเคที มิลเลอร์ โฆษกประจำตัวนายเพนซ์ และมีกำลังพล 1 นาย ที่ทำงานในทำเนียบขาวติดเชื้อโรคโควิด-19 ทำให้แพทย์อาวุโส 3 คนในทีมงานแก้ปัญหาโควิด-19 ของทำเนียบขาวต้องถูกกักตัวตามไปด้วย



          นายเดวิน โอมัลลีย์ โฆษกทำเนียบขาว เผยแพร่ในแถลงการณ์ว่า นายเพนซ์ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบขาวตามปกติ และจะร่วมแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ทำเนียบขาว ในวันจันทร์ที่ 11 พ.ค. รองผู้นำสหรัฐฯเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคเป็นประจำและผลการตรวจออกมาเป็นลบทุกครั้ง จึงไม่จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว และนายเพนซ์ ปฏิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุขของทีมแพทย์ประจำทำเนียบขาวด้วยความเคร่งครัดมาตลอด แถลงการณ์ของนายโอมัลลีย์ ยังไม่ชัดเจนในประเด็นที่ระบุว่า แม้นายเพนซ์ อาจไม่ได้กักตัวอย่างเด็ดขาด แต่ใช้วิธีรักษาระยะห่างมากขึ้นจากบุคคลรอบข้างหรือไม่



          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ วัย 73 ปี และนายเพนซ์ วัย 60 ปี ถูกหลายฝ่ายวิจารณ์มาตลอด เกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า



 

ข่าวทั้งหมด

X