ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563

ศบค.ชี้ 15 พ.ค.ได้ข้อสรุปเรื่องแนวทางการเปิดห้างฯ

          การพิจารณาเรื่องที่จะเปิดกิจการในช่วงที่สองจะมีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 15 พฤษภาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่จะพิจารณาตัดสินใจเรื่องการทดลองเปิดห้างสรรพสินค้า หลังจากที่เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมได้ให้ชุดข้อมูลไปทำให้เกิดความเข้าใจว่าจะทดลองเปิดแล้ว รายงานระบุว่า อาจมี 2 รูปแบบ

-อาจมีการทดลองเปิดห้างสรรพสินค้าบางแห่ง

-อาจจะขยายพื้นที่เปิดในห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้นจากเดิม เช่น เคยเปิดบางกิจกรรมจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 30-50 รูปแบบที่ชัดเจนต้องรอผลประชุมศบค.ชุดใหญ่

เฟส 2 ยังไม่มีการเปิดโรงหนัง

          นพ.ทวีศิลป์ ชี้แจงว่าจะมีการเปิดโรงภาพยนตร์ด้วยหรือไม่ว่าต้องประชุมปรึกษาและเสนอให้ศบค.ชุดใหญ่พิจารณา ยังไม่ได้กำหนดว่าชุดใดจะอยู่ที่ระยะ 2 ระยะ 3 ระยะ 4  คร่าวๆ จะจัดเรียงตามความเสี่ยงของการติดโรค ถ้าพร้อมก็อาจจะเปิดได้แต่ยังไม่เห็นโรงภาพยนตร์อยู่ในระยะที่ 2

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เตือนประชาชนไปห้าง ซื้อของแล้วรีบกลับ ไม่ใช่ไปพักผ่อน

          นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังมีการคลายล็อกให้ประชาชนใช้ชีวิตมา 1 สัปดาห์แล้ว สถานการณ์กลับมาเป็นการแพร่ระบาดในวงจำกัด ไม่ใช่การแพร่ระบาดในวงกว้าง แต่ต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการรักษาระดับที่มีผู้ป่วยในอัตราน้อยๆ นี้เอาไว้ให้ได้

          ปัจจัยที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด มี 2 ปัจจัย คือ

-การติดเชื้อในชุมชน และการเจอคนมากน้อยแค่ไหน ยิ่งเจอมากยิ่งเสี่ยงมาก

-สถานที่ที่ไปเจอผู้คนด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยมีผู้ป่วยมาก่อนถือว่ามีความเสี่ยงสูง อย่างห้างสรรพสินค้า เมื่อเปิดแล้วควรไปซื้อเฉพาะของที่ต้องการแล้วกลับ ไม่ควรอยู่นาน อย่าคิดว่าการไปห้างสรรพสินค้า คือการพักผ่อน แต่การไปห้างสรรพสินค้า คือ การเพิ่มความเสี่ยง รองอธิบดีกรมควบคุมโรค มองเรื่องการคลายล็อกว่าควรทำเป็นพื้นที่มากกว่าไม่ใช่ทำทั้งประเทศ ถ้าพื้นที่ที่มีปัญหาก็ยังคลายล็อกไม่ได้

เฝ้าดูอาการผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 คนในภูเก็ต พร้อมจับตา 6 กลุ่มเสี่ยง

          การดูแลผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 จำนวน 4 คน ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต อยู่ระหว่างรอผลสอบสวนโรค

- ลำดับที่ 1 รายที่ 221 หญิงไทย อายุ 23 ปี อาชีพผู้ช่วยเลขานุการ อยู่ในพื้นที่ ซ.ป่าสัก 4 ม.4 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 2 พฤษภาคม รอผลสอบสวนโรค

-ลำดับที่ 2 รายที่ 222 หญิงไทย อายุ 29 ปี อาชีพผู้ช่วยผู้จัดการร้านสะดวกซื้อ อยู่ในพื้นที่ ซ.นาเสือ ม.4 ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง เริ่มป่วยวันที่ 7 พฤษภาคม รอผลการสอบสวนโรค มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 12 คน

-ลำดับที่ 3 รายที่ 223 ชายไทย อายุ 19 ปี นักศึกษา อยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เริ่มป่วยวันที่ 6 พฤษภาคม รอผลการสอบสวนโรค

-ลำดับที่ 4 รายที่ 224 ชายไทย อายุ 29 ปี ตำรวจสายตรวจ สภ.ป่าตอง อยู่ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เริ่มป่วยวันที่ 2 พฤษภาคม รอผลการสอบสวนโรค

          สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด -19 ที่พบเพิ่มทั้งหมดมีประวัติสัมผัสกับพื้นที่เสี่ยง สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 ทั้งหมดยังคงรับการรักษาที่โรงพยาบาล

          การตรวจหาเชื้อผู้ป่วยเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยง นอกจากจังหวัดภูเก็ตที่มีการตรวจเชิงรุกไปแล้ว ต้องมีการตรวจเชิงรุกในพื้นที่อื่นๆด้วย เนื่องจากช่วงเวลาผ่อนปรนมีคนเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตหลายหมื่นคน คาดว่าประมาณ 10,000-20,000 คน เป็นแรงงานที่เข้าไปทำงาน

          ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษตอนนี้ไม่เป็นพื้นที่แล้ว แต่เป็นกลุ่มบุคคล โดย 6 กลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการสุ่มตรวจเป็นระยะๆ คือ

-บุคลากรทางการแพทย์

-ผู้ต้องขังแรกรับหรือผู้ต้องกัก

-คนขับรถสาธารณะ

-พนักงานไปรษณีย์หรือส่งของ

-แรงงานต่างด้าว

-คนที่ทำงานอาชีพเสี่ยง เช่น สถานบันเทิง ผับ บาร์ เป็นต้น