คนไทยการ์ดเริ่มตก! ลดใส่หน้ากากอนามัย-ไม่รักษาระยะห่าง เสี่ยงโควิด-19 ระบาดรอบใหม่

        สถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในไทยลดลงต่อเนื่อง นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แสดงความเป็นห่วงว่าอาจจะกลายเป็นจุดเสี่ยงทำให้การระบาดกลับมาใหม่ เพราะการที่ยอดผู้ป่วยลดลง ทำให้ประชาชนเริ่มคลายความกังวล การ์ดเริ่มตก เลิกทำตามมาตรการที่กระทรวงเคยแนะนำให้ทำ เห็นได้จากผลสำรวจครั้งล่าสุดของกระทรวงฯเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งเป็นสำรวจครั้งที่ 8 พบว่า ประชาชนทำตามมาตรการต่าง ๆ ลดลงทั้งหมด คือ

-การใส่หน้ากาก เหลือร้อยละ 75

-การรักษาระยะห่าง เหลือร้อยละ 78

-และการล้างมือ ลดลงจากเดิม

          ทั้งหมดนี้ นับเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ จึงขอความร่วมมือประชาชนว่ายังต้องทำตามมาตรการทุกอย่างอย่างต่อเนื่องให้เป็นนิสัย พร้อมขอบริษัทต่าง ๆ เหลื่อมเวลาทำงานหรือให้พนักงานทำงานที่บ้านเพื่อลดภาพความแออัดของคนในที่ต่างๆให้ได้มากที่สุด

          นพ.อนุพงศ์ ระบุว่า หากสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศดีขึ้นต่อเนื่องก็คาดว่าภายในปลายเดือนมิถุนายนทุกกิจการในประเทศจะกลับมาเปิดบริการได้ตามปกติ และหากภายใน 2 สัปดาห์นี้การระบาดไม่กลับมารุนแรง รัฐบาลก็เตรียมผ่อนคลายกิจการกลุ่มที่ 2 ที่อยู่ในแผนว่าจะเป็นกิจการกลุ่มต่อไปที่กลับมาเปิดได้ เช่น ห้างสรรพสินค้า และภัตตาคาร

          ส่วนการผ่อนคลายระยะแรกใน 6 กิจการ นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นห่วงร้านอาหารและสวนสาธารณะมากที่สุด เพราะมีประชาชนไปใช้บริการจำนวนมาก ย้ำว่า สิ่งสำคัญคือการเว้นระยะห่าง การนั่งทานที่ร้านควรนั่งคนละโต๊ะ และห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ส่วนสวนสาธารณะต้องไม่มีการจับกลุ่มทำกิจกรรมหรือพูดคุยกัน