ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 6 พฤษภาคม 2563

06 พฤษภาคม 2563, 18:52น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 6 พฤษภาคม 2563



มาเลเซีย ยอมเปิดด่านปาดังเบซาร์ ให้ไทย ขนผลไม้ ไม้ยาง และสินค้าข้ามพรมแดน เริ่ม 7 พ.ค.นี้



          หลังประเทศไทย ได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการส่งไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมของมาเลเซีย เพื่อขอให้เปิดพรมแดนด้านติดต่อกับด่านปาดังเบซาร์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลมาเลเซียได้อนุญาตให้ประเทศไทยสามารถขนส่งสินค้าเพื่อการส่งออกด้วยวิธีขนส่งทางรถไปขึ้นระบบรางของประเทศมาเลเซียผ่านด่านปาดังเบซาร์ได้แล้ว ในสินค้าทุกประเภท ซึ่งรวมถึงการส่งออกไม้ยางพารา ผลไม้ และสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิดด้วย โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นผลดีกับการส่งออกของไทยและการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย หลังจากที่ประเทศไทยส่งออกสินค้าไปยังมาเลเซียได้โดยผ่านด่านสะเดาเป็นหลัก

เพชรบุรี ผ่อนปรนให้ขายเหล้าได้แล้ว เริ่มพรุ่งนี้ 7 พ.ค.



          นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเพชรบุรี ได้ออกคำสั่งจังหวัดเพชรบุรีที่ 743/2563 เรื่อง แก้ไขคำสั่งให้เปิดร้านค้าหรือสถานที่บางประเภทตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  โดยเริ่มเปิดขายได้ในวันพรุ่งนี้ 7 พฤษภาคม           เฉพาะ



-สถานที่ประเภทที่ 1.ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในโรงแรม สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง โรงพยาบาล ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ซึ่งไม่รวมถึงสถานบริการ ผับ บาร์



-สถานที่ประเภทที่ 2.ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดเฉพาะซูเปอร์มาเก็ต ร้านขายยา สินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ศูนย์บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธนาคาร ที่ทำการหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจเท่านั้น ส่วนแผนกร้านอาหารให้เปิดเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่น



-และสถานที่ประเภทที่ 3 ร้านค้าปลีก/ค้าส่งขนาดย่อม ร้านค้าปลีก/ค้าส่ง ถนนคนเดิน ตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด ให้สามารถจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ห้ามมิให้ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในสถานที่ที่จำหน่าย โดยสถานที่เหล่านี้ยังคงต้องถือปฏิบัติดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามภาคผนวกแนบท้ายคำสั่งนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป



          ก่อนหน้านี้ เพชรบุรี เป็น 1 ใน 4 จังหวัด ที่ไม่อนุญาตให้เปิดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกเหนือจากจังหวัด พิษณุโลก ปทุมธานี บุรีรัมย์ โดยมีผลไปถึงวันที่ 31 พ.ค.



ก.คลังเตรียมกลับมาทบทวนดูแล 1.7 ล้านคน ที่ลงทะเบียน ‘เราไม่ทิ้งกัน” ไม่สำเร็จรอบแรก



          หลังรัฐบาลเปิดมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส "โควิด-19" จะได้รับเงินสนับสนุนรายละ 5,000 บาทต่อเดือน โดยต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เท่านั้น



          ล่าสุดนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า จะกลับมาทบทวน กรณีที่มีประชาชนประมาณ 1.7 ล้านคน กลุ่มลงทะเบียนไม่สำเร็จตั้งแต่ต้นคือ คนที่กรอกข้อมูลทุกอย่างในหน้าเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน แล้วข้อมูลผิดตั้งแต่ต้น เช่น นามสกุลสะกดผิด หรือใส่คำนำหน้าชื่อตอนกรอกข้อมูล เป็นต้น แล้วถูกตัดสิทธิ์ตั้งแต่ตอนลงทะเบียน ถือว่ายังไม่ได้เข้ากระบวนการคัดกรองตั้งแต่ต้นซึ่งมีมากถึง 1.7 ล้านคน



          ขณะนี้กระทรวงการคลังรับทราบปัญหาแล้ว เตรียมที่จะนำมาทบทวนอีกครั้ง ว่าผิดพลาดในขั้นตอนไหน อย่างไร และจะดูแลเยียวยาได้อย่างไร ถึงจะเหมาะสมที่สุด



          ในส่วนของผู้ได้รับสิทธิ์ กระทรวงการคลังจะโอนเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับสิทธิ์ส่วนใหญ่จำนวน 11 ล้านราย ภายในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค. 2563) ส่วนที่เหลือประมาณ 1.8 ล้านราย จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า  และย้ำว่าตอนนี้ยังไม่มีนโยบายเปิดให้ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันใหม่



โฆษกทร.รับมีพลทหารติดโควิด1คน กักตัวคนใกล้ชิด-เพื่อนร่วมงาน14วัน



          หลังมีกระแสข่าวว่ามีพลทหารสังกัดกองทัพเรือ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปผลได้ต้องรอผลตรวจจากห้องแลปโรงพยาบาลจุฬาฯ ในวันพรุ่งนี้ก่อน เนื่องจาก ผลตรวจครั้งแรก ที่รพ.ปิ่นเกล้า พบว่าติดเชื้อ แต่พอตรวจซ้ำกลับไม่พบติดเชื้อ จึงส่งให้ รพ.จุฬาฯตรวจ



          พลทหารรายนี้ เล่นกีฬา แต่เกิดอุบัติเหตุขาหัก จึงถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลและเมื่อแพทย์ตรวจ ในเบื้องต้นสงสัยว่า ติดเชื้อโควิด-19 แต่พอตรวจซ้ำกลับพบว่าไม่ได้ติดเชื้อ แต่เพื่อให้เป็นไปตามหลักการทางสาธารณสุขกองทัพเรือจึงได้ส่งทหารเรือที่เป็นเพื่อนร่วมงานทำงานใกล้ชิดราว 20 คนไปกักตัวที่อาคารรับรองกองทัพเรือสัตหีบ เพื่อดูอาการก่อนในระหว่างที่รอผลตรวจอย่างเป็นทางการ พร้อมยืนยันว่ากองทัพเรือจะไม่มีการปกปิดผลการตรวจใดๆและพร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข



ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลก ใกล้แตะ3 ล้าน 7 แสนคน



          ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ซึ่ รายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 3,679,544 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 257,798 ราย



          สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงที่สุด และเสียชีวิตมากที่สุดในโลก โดยมีผู้ติดเชื้อ 1,204,475 คน และเสียชีวิตแล้ว 71,078 ราย โดยผู้ติดเชื้อในรัฐนิวยอร์กมีจำนวนมากถึง 321,192 คน และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 25,124 ราย รองลงมาคือรัฐนิวเจอร์ซีย์ มียอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 130,593 คนและยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 8,244 ราย

          สเปน มีผู้ติดเชื้อมากเป็นที่สองของโลก คือ 219,329 คน และมีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 4ของโลกคือ 25,613 ราย โดยสถานการณ์ของผู้ป่วยรายใหม่ในสเปนเริ่มชะลอตัวลง โดยมีผู้รายใหม่เพียง 867 คนและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 185 ราย



          อิตาลี มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากเป็นอันดับสามของโลก คือ 213,013 คนและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 29,315 ราย



          สหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้ออยู่ในอันดับสี่ของโลกคือ 196,243 คนและมีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ของโลกคือ 29,501 ราย

         ฝรั่งเศส มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากเป็นอันดับห้าของโลกคือ 170,694 คนและเสียชีวิตแล้ว 25,538 ราย

          และเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อสะสม 167,007 คนมีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 5 ของโลกคือ 6,993 ราย โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเยอรมนีมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 165 ราย



หุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น หลังราคาน้ำมันกลับมาปิดบวก



          ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ ตามทิศทางหุ้นดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขานรับปัจจัยราคาน้ำมันดิบ ที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 รวมทั้งข่าวที่ว่า รัฐต่างๆในสหรัฐฯเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์และเปิดเศรษฐกิจบางส่วน ดัชนีฮั่งเส็งปรับตัวขึ้น 268.82 จุด ปิดที่ 24,137.48 จุด



ไม่ต่ออายุสัมปทาน-ปิดสถานีโทรทัศน์ในฟิลิปปินส์ หลังวิจารณ์รัฐบาล



          สถานีโทรทัศน์ ABS-CBN ของฟิลิปปินส์ต้องยุติการออกอากาศ ตามคำสั่งของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เนื่องจากใบอนุญาตการออกอากาศของสถานีหมดอายุลงตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ (4 พ.ค.) และสภามีมติไม่ต่ออายุสัมปทาน



          สำหรับสถานี ABS-CBN เป็นสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมในฟิลิปปินส์และมักรายงานข่าววิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต จนทำให้ประธานาธิบดีไม่พอใจมาแล้วหลายครั้ง การที่สภาไม่ต่ออายุสัมปทานจึงทำให้ถูกมองว่าเป็นความพยายามควบคุมสื่อ

          ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์มีคำแถลงว่าจะหยุดดำเนินการในเย็นวันอังคาร (5 พ.ค.) ตามคำสั่งของคณะกรรมการ และแสดงความเชื่อมั่นว่าสภาจะต่ออายุสัมปทาน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของชาวฟิลิปปินส์ นายมาร์ค โลเปซ ประธานของสถานีระบุว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดสำหรับพนักงานทุกคน และยังเป็นความเจ็บปวดสำหรับประชาชนหลายล้านคน ซึ่งให้ความเชื่อมั่นในการทำงานของพวกเรา

ข่าวทั้งหมด

X