*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

11 ธันวาคม 2557, 06:08น.


+++นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน  โทษบางประเทศว่าอยู่เบื้องหลังวางแผนฉุดราคาน้ำมันและบางประเทศเหล่านั้นได้ประโยชน์  ราคาน้ำมันที่ลดลงไม่ได้มีสาเหตุมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นมา ราคาน้ำมันโลกปรับลดลงมากว่าร้อยละ 40 รัฐบาลของนายรูฮานี จึงต้องพยายามหาแหล่งรายได้อื่นๆมาชดเชย เนื่องจากงบประมาณประจำปี 2014 ของอิหร่าน นายรูฮานี สั่งการให้รัฐบาลใช้มาตรการต่างๆเพื่อบรรเทาผลกระทบของราคาน้ำมันที่ตกต่ำ



+++สถานการณ์ราคาน้ำมันร่วงลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 5 ปีครั้งใหม่ในวันพุธ หลังประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก)ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์ของทางกลุ่ม    

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขยับลงจากเมื่อ 6 เดือนก่อนแล้วกว่าร้อยละ 40 ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 2.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 



+++ปัจจัยของกลุ่มโอเปกปรับลดคาดการณ์อุปสงค์ของทางกลุ่มฉุดให้หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหนัก และกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายทั่วทั้งกระดานอย่างกว้างขวาง ทำให้วอลล์สตรีทเมื่อวันพุธ(10ธ.ค.) ร่วงลงหนักกว่าร้อยละ 1.5 ดาวโจนส์ ลดลง 268.05 จุด ปิดที่ 17,533.15 จุด ปรับลดหนักสุดในรอบ 2 เดือน เอสแอนด์พี ลดลง 33.68 จุด  ปิดที่ 2,026.14 จุด แนสแดค ลดลง 82.44 จุด  ปิดที่ 4,684.03 จุด 



+++คนงานหลายพันคนเดินขบวนในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย เรียกร้องขอขึ้นเงินเดือน หลังจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันเมื่อเร็วๆนี้ส่งผลให้ภาวะเงินเฟ้อพุ่งขึ้นตามไปด้วย ฝูงชนพากันโบกธงเดินขบวนไปยังวงเวียนหลักแห่งหนึ่งย่านกลางกรุงจาการ์ตาและทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อเปิดฉากการประท้วงทั่วประเทศเป็นเวลา 2 วัน  ผู้ประท้วงในกรุงจาการ์ตา แสดงความไม่พอใจข้อตกลงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสำหรับปี 2015 โดยเฉพาะหลังจากรัฐบาลปรับขึ้นราคาน้ำมันที่ผลักให้ภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว เนื่องด้วยต้นทุนในการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง โดยบอกว่าต่อต้านค่าแรงที่แสนถูกนี้ และต่อต้านการขึ้นราคาน้ำมันเช่นกัน



+++ราคาทองคำ  ขยับลงเล็กน้อย จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังดีดขึ้นแรงหนึ่งวันก่อนหน้านี้ เนื่องจากการแห่เข้าถือซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,229.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 



+++วันนี้ตามกันต่อ หลังจากมีการเผยแพร่รายงานของวุฒิสภาที่กรุงวอชิงตัน มีเนื้อหากล่าวถึงพฤติการณ์ของสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ในการทรมานผู้ถูกควบคุมตัวภายหลังวินาศกรรม 9/11 โดยมีการสอบปากคำด้วยความโหดร้ายทารุณ ยิ่งกว่าที่เคยเปิดเผยออกมา ก่อนที่จะมีการเผยแพร่รายงานสำคัญฉบับนี้  ทางการสหรัฐฯได้สั่งให้สถานเอกอัครราชทูตต่างๆ รวมทั้งสถานที่ตั้งทางทหารทั้งหลายของอเมริกาในทั่วโลก เพิ่มการรักษาความปลอดภัย เพื่อเตรียมรับมือหากเกิดมีการก่อเหตุแก้แค้นต่อต้านอเมริกันขึ้นมา และหลังการเผยแพร่รายงานนี้แล้ว สำนักข่าวเอพีระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตของสหรัฐฯประจำอัฟกานิสถาน, ปากีสถาน, และไทย ได้ออกคำเตือนให้ระวังความเป็นไปได้ที่จะเกิดการประท้วงและเหตุรุนแรงต่อต้านอเมริกัน รวมทั้งแนะนำชาวอเมริกันใน 3 ประเทศนี้ให้คอยระมัดระวังตัวเพื่อความปลอดภัยอย่างเหมาะสม



+++รายงานของคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่นำออกเผยแพร่มี 524 หน้าเป็นการตัดทอนจากส่วนบทสรุปสำหรับผู้บริหารและข้อสรุปต่างๆ ของรายงานฉบับเต็ม และยังมีการป้ายสีดำทับข้อความที่เห็นกันว่ามีความอ่อนไหวเป็นจำนวนมากแต่จากส่วนที่นำออกตีพิมพ์คราวนี้ก็เป็นการยืนยันและเพิ่มเติมข้อมูลที่ได้เคยรั่วไหลและเผยแพร่ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับโครงการของซีไอเอในการกักขังและสอบปากคำผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งมีทั้งสมาชิกอัลกออิดะห์และนักโทษอื่นๆ ในช่วงระหว่างปี 2002-2006 ช่วงที่นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นประธานาธิบดี



+++นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯออกกฎหมายใหม่ให้อำนาจในการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มหัวรุนแรงไอเอสเป็นเวลาอย่างน้อย3 ปีแต่ระหว่างการอภิปรายกันอย่างเผ็ดร้อน นายแคร์รี ถูกโจมตีอย่างหนักจากสมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตซึ่งแย้งว่า หากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯต้องการอำนาจใหม่เพื่อต่อสู้กับกลุ่มนักรบศักดิ์สิทธิ์ ควรจะร่างเนื้อหาของกฎหมายเสนอต่อวุฒิสภาไป ทั้งนี้พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯปฏิบัติการโจมตีทางอากาศประมาณ1,100 ครั้งในซีเรียและอิรักตั้งแต่เดือนก.ย.ถล่มเป้าหมายของกลุ่มไอเอสเพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวที่ยึดดินแดนจำนวนมากและประกาศกฎหมายอิสลาม



+++สื่อท้องถิ่นปาเลสไตน์ รายงานแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า นายซิอัด อาบู เอียน รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะของรัฐบาลปาเลสไตน์ เสียชีวิตระหว่างที่ทหารอิสราเอลบุกเข้าสลายการประท้วงใกล้หมู่บ้านเทอร์มูซายา ในเขตเวสต์แบงค์ นายอาบู เอียน เสียชีวิตเนื่องจากสูดดมแก๊สน้ำตาเข้าไปที่หมู่บ้านดังกล่าว ก่อนหน้านี้ นักเคลื่อนไหวได้ร่วมการประท้วงในบริเวณนั้นมาตั้งแต่เมื่อเช้าวานนี้เพื่อคัดค้านคำสั่งเวนคืนที่ดินบริเวณนั้นของอิสราเอลผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนบอกว่ารัฐมนตรีถูกทหารอิสราเอลทุบตีและผลักอย่างแรง รายหนึ่งบอกว่า นายอาบูเอียน ถูกสะเก็ดกระป๋องแก๊สน้ำตาที่ยิงมาจากทหารอิสราเอลกระแทกเข้าที่หน้าอกอย่างแรง



+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ รายงานว่า นิตยสารไทม์ ยกย่องทีมแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่ร่วมกันต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกกว่า 6,300 ศพ ให้เป็น "บุคคลแห่งปี 2557" น.ส.แนนซี กิบบ์ส บรรณาธิการนิตยสารไทม์ กล่าวยกย่องความเสียสละ กล้าหาญและความมีจิตใจเมตตา ของบุคคลากรภาคสนาม ที่รวมถึง หน่วยแพทย์ไร้พรมแดน กลุ่มบรรเทาทุกข์ด้านการแพทย์ของชาวคริสต์ "ซามาริตันส์ เพิร์ส และหน่วยงานอื่นๆ จากทั่วโลก ที่ร่วมกันต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ กับแพทย์และพยาบาลท้องถิ่น ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ที่มีศูนย์กลางอยู่ใน 3 ประเทศทางภาคตะวันตกของแอฟริกาคือ ไลบีเรีย กินี และเซียร์รา ลีโอน และเชื้อได้แพร่ไปยัง ไนจีเรีย มาลี สเปน เยอรมนี และสหรัฐฯ



+++การประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลีใต้และผู้นำอาเซียน เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และอาเซียน ที่เมืองปูซานของเกาหลีใต้เป็นไปอย่างเข้มงวด มีการวางกำลังตำรวจรักษาความปลอดภัยโดยรอบศูนย์การประชุมและนิทรรศการเมืองปูซาน สถานที่จัดกาประชุม และตรวจตรารถยนต์ที่ผ่านเข้าออกอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้าย ก่อนการประชุมที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-12  ธ.ค.



+++ตำรวจฮ่องกงขีดเส้นตายจนถึงเช้าวันพฤหัสบดี ให้ผู้ประท้วงออกจากพื้นที่ ก่อนที่จะเข้ารื้อถอนสิ่งกีดขวางในสถานที่ชุมนุม เช้าวันนี้ คนงานจะเข้าไปรื้อถอนรั้วเหล็ก เต็นท์ และสิ่งกีดขวางอื่นๆ ออกจากสถานที่ชุมนุมหลักในย่านแอดมิรัลตี้ ตามคำสั่งของศาล ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันอังคาร โดยศาลยังได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจให้ส่งกำลังมาเสริมราว 7,000 นาย เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเผชิญหน้ากับผู้ประท้วงซึ่ง ที่ปักหลักประท้วงมานานกว่า 2 เดือน ด้านผู้ประท้วงประกาศว่าจะเดินหน้าชุมนุมจนถึงนาทีสุดท้ายที่ทางการเข้ามารื้อถอนสถานที่ชุมนุม ผู้ประท้วงซึ่งเรียกร้องขอสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ เริ่มเข้ายึดถนนในย่านสำคัญๆ 3 แห่งในฮ่องกงมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. หลังตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วง แต่ไม่สามารถสลายผู้ประท้วงได้



+++เจ้าหน้าที่สายการบินโคเรียนแอร์ของเกาหลีใต้เผยว่า นางโช ฮยอนอา บุตรสาวคนโตของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองประธานบริหารแล้ว หลังจากเผชิญกระแสวิจารณ์เรื่องไล่หัวหน้าพนักงานต้อนรับลงจากเครื่องบิน เจ้าหน้าที่โคเรียนแอร์เผยว่า นายโช ยังโฮ ซีอีโอได้รับหนังสือลาออกของบุตรสาวแล้ว นางโชวัย 40 ปี ถูกสื่อวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีสั่งให้หัวหน้าพนักงานต้อนรับลงจากเครื่องบินเพราะพนักงานเสิร์ฟถั่วแมคคาเดเมียทั้งที่เธอไม่ได้สั่ง และยังเสิร์ฟทั้งซองแทนที่จะเทใส่ชาม ทำให้เครื่องบินที่เตรียมจะทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานจอห์นเอฟเคเนดี้ที่นครนิวยอร์กต้องเลี้ยวกลับไปจอดที่ประตูอาคารผู้โดยสาร ส่งผลให้เที่ยวบินที่จะมุ่งหน้ามากรุงโซลของเกาหลีใต้เมื่อวันศุกร์ล่าช้ากว่ากำหนด โคเรียนแอร์ได้แถลงขอโทษผู้โดยสารต่อกรณีดังกล่าว แต่ก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องสมควรแล้วที่นางโชจะตำหนิพนักงานเรื่องไม่ปฏิบัติตามระเบียบของสายการบิน



+++สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น า นางชิซาโกะ กาเกฮิ วัย 68 ปี ฉายา "แม่ม่ายดำ" ที่เกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของสามีและคนรักรวม 6 คนในอดีตของเธอ ถูกอัยการศาลแขวงเกียวโต ตั้งข้อหา ฐานฆาตกรรม นายอิซาโอะ กาเกฮิ วัย 75 ปี สามีคนที่ 4 เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ด้วยสารพิษไซยาไนด์ แต่เธอปฏิเสธข้อหาดังกล่าว และเตรียมสู้คดีในศาล เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พบร่องรอยของสารไซยาไนด์ในบ้านพักของนางกาเกฮิ ซึ่งถูกตำรวจจับกุมเมื่อเดือนที่แล้ว และยังพบในกระถางต้นไม้ที่เธอทิ้ง นางกาเกฮิ มีความสัมพันธ์กับผู้ชายอีกกว่า 10 คน โดย 4 คนในจำนวนนี้แต่งงาน ส่วนอีก 2 คนอยู่กินแบบไม่ได้จดทะเบียน และเธอมักคบหาผู้ชายมากกว่า 1 คนในเวลาเดียวกันย ผู้ชายทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุหรือกำลังเจ็บป่วย และมีฐานะ พบปะรู้จักผ่านสำนักงานจัดหาคู่ครอง จากการตรวจสอบพบว่า นางกาเกฮิ ได้รับเงินจากการประกันชีวิตและสิทธิประโยชน์อื่นๆ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X