การปรับหลักเกณฑ์อาการป่วยของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคโควิด-19 เพื่อหาตัวผู้ป่วยโรคนี้ให้ได้มากที่สุด นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) ระบุว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับหลักเกณฑ์ใหม่เป็นว่าถ้าใครมีอาการ
-เป็นไข้หรือคล้ายเป็นหวัด
-ไม่สามารถรับรสหรือกลิ่นต่าง ๆ ได้เหมือนปกติ
หากมีอาการดังกล่าวสามารถมาตรวจหาเชื้อได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งการปรับหลักเกณฑ์แต่ละครั้ง เป็นไปตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ สิ่งสำคัญเพราะต้องการนำกลุ่มเสี่ยงเข้ามาตรวจให้มากที่สุด เพื่อหาตัวผู้ป่วยรายใหม่ให้มากที่สุด
สำหรับการตรวจผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงนับตั้งแต่โรคเริ่มมีการระบาดในไทยจนถึงเมื่อวานนี้(5 พฤษภาคม 2563) ตรวจไปแล้ว 82,267 คน พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 2,988 คน คิดเป็นร้อยละ 3.62
แต่หากนับตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน ที่มีการปรับหลักเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการเร่งค้นหากลุ่มเสี่ยงให้มากขึ้น จนถึงเมื่อวานนี้ พบว่า มีการตรวจกลุ่มเสี่ยงไปแล้ว 54,600 คน พบผู้ป่วย 768 คน คิดเป็นร้อยละ 1.41 แสดงให้เห็นว่า หลังปรับเกณฑ์ผู้ป่วยแม้จะพบผู้ป่วยน้อยลง แต่สามารถตรวจกลุ่มเสี่ยงได้มากขึ้น ซึ่งตรงกับจุดประสงค์ของกระทรวง
ส่วนการเดินทางกลับประเทศไทย นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า วันนี้จะมีคนไทยในต่างประเทศกลับเข้าไทยอีก 291 คน มาจากประเทศเมียนมา, เยอรมนี และปากีสถาน และตั้งแต่วันพรุ่งนี้จนถึงสิ้นเดือนนี้ จะมีคนไทยในต่างประเทศ ที่ลงทะเบียนไว้แล้วทยอยกลับเข้ามาอีกรวม 7,000 คน ส่วนยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน จนถึงเมื่อวานนี้ มีคนไทยเดินทางกลับเข้ามาแล้ว 4,637 คน จาก 27 ประเทศ สำหรับคนไทยในประเทศมาเลเซีย พบว่า ยังมีตกค้างอยู่ไม่ต่ำกว่า 29,491 คน ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยแล้ว และได้ขอความร่วมมือว่า อย่าเพิ่งรีบกลับเข้ามา
ส่วนศูนย์ควบคุมโรคที่รัฐจัดไว้กักตัวคนทุกกลุ่มที่เดินทางเข้ามาไทยตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนจนถึงเมื่อวานนี้มียอดสะสม 12,847 คน
-จำนวน 8,926 คน ยังอยู่ระหว่างกักตัว
-จำนวน 3,921 คน กลับบ้านแล้ว
-และ 85 คน เป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยใหม่วันนี้ 1 คนด้วย