หลังจากรัฐบาลมาเลเซีย ได้รับการร้องเรียนจากภาคเอกชน เนื่องจาก รัฐบาลท้องถิ่น ยังไม่ผ่อนคลายมาตรการ จากสถานการณ์โรคโควิด -19 นายโมฮาเหม็ด อัซมิน อาลี รัฐมนตรีการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมของมาเลเซีย เตือนรัฐบาลท้องถิ่นของมาเลเซียว่าอาจจะถูกภาคเอกชนฟ้องเรียกค่าเสียหายตามกฎหมาย ถ้ารัฐบาลท้องถิ่นประกาศปิดเมืองต่อไป ไม่อนุญาตให้ภาคเอกชนทำธุรกิจตามปกติ คำสั่งของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นการกระทำที่ขัดกฎหมาย และไม่สอดคล้องกับนโยบายผ่อนคลายธุรกิจของรัฐบาลกลางที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
รัฐบาลมาเลเซีย เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ อนุญาตให้ห้างร้าน โรงงานและบริษัทเอกชนเปิดทำการตามปกติ ตั้งแต่วันนี้ ปรากฏว่า มี 6 รัฐ จาก 13 รัฐ ได้แก่ เคดาห์ ซาบาห์ ปะหัง ปีนัง กลันตัน และซาราวัก ที่ยังไม่ผ่อนคลายล็อกดาวน์ และอีก 3 รัฐ ได้แก่ สลังงอร์ เปรัก และเนกรีเซมบิลัน อนุญาตให้เปิดธุรกิจบางประเภท ห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหาร
การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 เมษายน สรุปว่า ถ้ามาเลเซียใช้มาตรการล็อกดาวน์ ปิดธุรกิจต่อไปจนถึงเดือนมิถุนายน จะทำให้ประเทศสูญเสียรายได้รวม 146,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือร้อยละ 10.3 ของจีดีพีของมาเลเซีย หรือเท่ากับลบล้างความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจของมาเลเซียตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาเลเซียมีผู้ป่วยสะสม 6,353 คน เสียชีวิต 105 ราย
Cr: Bernama New, CNA