ผลการสำรวจประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ตลอดเดือนเมษายนนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติได้จัดทำขึ้น นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เข้าใจว่า ควรทำตามมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ จะช่วยลดการระบาดของโรคได้ และในผลสำรวจพบว่ามีการป้องกันใส่หน้ากากอนามัยหรือ หน้ากากผ้าร้อยละ 91.2 ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลอยู่ที่ร้อยละ 87.2 กินร้อนช้อนตัวเองอยู่ที่ร้อยละ 86.1 การรักษาระยะห่าง 1-2 เมตรร้อยละ 65.3 ไม่เอามือจับหน้าจมูก ปาก ร้อยละ 62.9
ส่วนการออกตรวจกิจการที่ได้รับการผ่อนปรน พบว่า ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรน
-ร้านอาหารเครื่องดื่ม 3,156 แห่ง พบปฏิบัติกฎผ่อนคลาย 2,942 ร้าน ไม่ทำตาม 214 ร้าน
-ห้างสรรพสินค้า 573 แห่ง ทำตามกฎผ่อนคลาย 563 แห่ง ไม่ทำตาม 10 แห่ง
-ตลาดร้านค้าปลีก 2,680 แห่ง ทำตาม 2,639 แห่ง ไม่ทำ 41 แห่ง
-ร้านเสริมสวย 1943 แห่ง ทำตาม 1882 แห่ง ไม่ทำตาม 61 แห่ง
-สนามกอล์ฟมีการตรวจ 77 แห่งพบว่า ปฏิบัติตามทั้งหมด
-สนามกีฬามีการออกตรวจ 254 แห่ง ทำตามกฎ 242 แห่ง ไม่ทำตาม 12 แห่ง
-สวนสาธารณะออกตรวจ 352 แห่ง ทำตามกฎ 346 แห่ง ไม่ทำตาม 6 แห่ง
-และร้านสัตว์เลี้ยง 348 แห่ง ทำตาม 341 แห่ง ไม่ทำตาม 7 แห่ง
ด้านการสำรวจข้อมูลผ่านทางออนไลน์ พบว่าสถานที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าควรเปิด คือ ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า มากกว่าร้อยละ 69.9 ร้านตัดผม คลินิกเสริมความงาม นวดแผนโบราณ และสปา ร้อยละ 45.7
ส่วนสถานที่ที่ประชาชนเห็นว่าไม่ควรเปิดประกอบด้วยสนามมวย-สนามกีฬา-สนามม้ากว่าร้อยละ 90.5 ผับ สถานบริการ สถานที่แสดงมหรสพ สถานประกอบการ อาบอบนวด ร้อยละ 89.9 ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน ประถม มัธยม ร้อยละ 64.6 มหาวิทยาลัย ร้อยละ 56.5 แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ พิพิธภัณฑสถาน ห้องสมุดสาธารณะ ศาสนสถาน ร้อยละ 49 ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือร้านอื่น ที่เป็นบริการอาหารแบบนั่งกิน ร้อยละ 43 และสถานีขนส่งหรือโดยสาร ร้อยละ 42.7