ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แถลงแนวทางผ่อนคลายการล็อกดาวน์,ให้ธุรกิจก่อสร้าง,โรงงานเปิดได้ก่อนกลุ่มอื่นๆ

          หลังรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐนิวยอร์ก พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงที่สุดในสหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์มาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กแถลงเรื่องแนวทางการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน แบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้

• 
  ระยะที่ 1 รัฐบาลของรัฐนิวยอร์กจะอนุญาตให้บางอุตสาหกรรม เช่น การก่อสร้าง ร้านค้าปลีก โรงงานผลิตอุตสาหกรรมในบางท้องที่ที่มีตัวเลขผู้ป่วยใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่องเปิดทำการตามปกติได้ก่อนกลุ่มธุรกิจอื่นๆ


• 
  ระยะที่ 2 คือ การเงินการธนาคาร อสังหาริมทรัพย์และธุรกิจให้เช่า-เช่าซื้อ


• 
  ระยะที่ 3 คือ ร้านอาหาร บริการด้านอาหารและโรงแรม


• 
  ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายคือ ธุรกิจเกี่ยวกับศิลปะ,บันเทิง,สถานที่พักผ่อนหย่อนใจและโรงเรียน

       ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ค ยังไม่ได้บอกกำหนดเวลาการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในแต่ละระยะว่าจะเริ่มใช้เมื่อใด แต่รอยเตอร์ คาดว่ารัฐบาลท้องถิ่นของรัฐนิวยอร์ก จะแถลงรายละเอียดต่างๆก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันครบกำหนดมาตรการล็อกดาวน์

          นายคัวโม แสดงความเห็นใจประชาชนที่ประท้วงเพื่อขอให้มีการเปิดเมืองเร็วขึ้น แต่เขาเตือนว่าการเปิดเมืองเร็วเกินไปอาจจะทำให้เชื้อไวรัสกลับมาแพร่ระบาดระลอกที่ 2 เหมือนที่เคยเกิดขึ้น ในช่วงที่เกิดโรคไข้หวัดใหญ่สเปนแพร่ระบาดในสหรัฐฯในปี พ.ศ.2461 รัฐบาลสหรัฐฯในช่วงนั้นยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไป ส่งผลให้เชื้อโรคกลับมาแพร่ระบาดระลอกที่ 2 มีคนเสียชีวิตมากกว่าการแพร่ระบาดในระลอกที่ 1  สหรัฐฯมีผู้ป่วยสะสมโควิด-19 จำนวน 1,180,288 คน เสียชีวิต 68,922 ราย ส่วนใหญ่ในรัฐนิวยอร์กและรัฐมิชิแกน

Cr: reuters