รัฐบาล กู้เงินงวดแรกแล้ว 70,000 ล้าน เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 5,000 บาท
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้กู้เงินงวดแรก 7 หมื่นล้านบาท ตามพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะมีเงินเข้าคลังในวันนี้ เพื่อนำไปจ่ายเยียวยารายได้ 5,000 บาท ให้ผู้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 14 ล้านคน ส่วนที่เหลืออีก 2 ล้านคน จะใช้เงินจากส่วนอื่นในการจ่ายโดยการกู้งวดแรกได้ออกเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน และกู้จากธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ
ก.คลัง เตรียมโอนเงิน 5,000 บาท ให้อีก 800,000 คน
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการจ่ายเงินเยียวยาชดเชยรายได้จากโควิด-19 ว่า ในสัปดาห์นี้กระทรวงการคลัง เตรียมโอนเงินให้ผู้ลงทะเบียนได้อีก 3 ล้านคน จะทำให้มีผู้ได้รับเงินรวมทั้งหมดกว่า 11ล้านคน
-วันที่ 5 พ.ค.จะโอนได้ประมาณ 8 แสนคน
-วันที่ 6 พ.ค.ซึ่งตรงกับวันหยุด 1 แสนคน
-วันที่ 7-8 พ.ค.อีกวันละ 1 ล้านคน คนที่เพิ่งมีสิทธิ์ได้รับเงินเดือนพ.ค.เป็นเดือนแรก จะได้รับเงิน 2 เดือน รวมยอดเดือนเม.ย.และเดือนพ.ค.เป็น 10,000 บาท ทันที
ส่วนคนที่ผ่านการตรวจสอบแต่ยังไม่ได้รับเงิน 5,000 บาท เพราะมีชื่อบัญชีไม่ตรงกับชื่อที่ลงทะเบียนซึ่งมีจำนวนมาก ให้รีบแก้ไขข้อมูล ในเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน ตรงปุ่มสีเหลือง เปลี่ยนแปลงข้อมูลการรับเงิน เพื่อระบบจะเร่งตรวจสอบและโอนเงินให้ในรอบถัดไป รวมถึงขอแนะนำให้ผู้ได้รับสิทธิ์ไปทำพร้อมเพย์ผูกบัญชีกับเลขบัตรประชาชน เพราะทำให้การโอนเงินรวดเร็วโดยไม่ต้องแก้ไขข้อมูล ส่วนกลุ่มที่ยังไม่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม 4 แสนคน จะต้องรีบมาให้ข้อมูลผ่านออนไลน์โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นระบบจะไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลหรือจ่ายเงินให้ได้
กลุ่มคนพิการ บุกทำเนียบ ร้องนายกฯ เปิดจุดขายหวย
กลุ่มคนพิการแขน-ขา ประมาณ 80 คน และผู้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ยื่นหนังสือถึงนายกฯ และผู้ว่าราชการจังหวัด สังกัดกระทรวงมหาดไทย ร้องเรียนเนื่องจากประสบปัญหาไม่สามารถออกขายสลากได้เพราะจุดจำหน่ายถูกสั่งปิด และเกรงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่จับ เนื่องจากสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังไม่ได้รับการผ่อนผัน ผ่อนปรน ให้เป็นสินค้าที่สามารถจำหน่ายได้ ตามคำสั่งของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของรัฐบาล เจ้าของสถานประกอบการก็ไม่กล้าให้เปิดจำหน่ายสลากได้ เพราะเกรงกลัวจะผิดกฎหมายถูกจับและถูกปรับเงิน
แรงงานนครพนมจากภูเก็ต เดินทางถึงบ้านแล้ว กักตัวดูอาการ14วัน
หลังจากที่เมื่อวานนี้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานเกี่ยวข้องเดินทางไปรับตัวแรงงานชาวจังหวัดนครพนม 23 คนที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาในจังหวัดนครพนม หลังจากไปทำงานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อความปลอดภัยในการป้องกันโรคโควิด-19 เมื่อช่วงกลางดึกได้เดินทางถึงจังหวัดนครพนมแล้ว นายสยาม และญาติพี่น้องของแรงงานมารอรับบริเวณจุดคัดกรอง และได้ส่งตัวกลับไปกักตัวดูอาการต่อที่บ้านตามขั้นตอน 14 วัน โดยมี อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ดูแลตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มแรงงานที่ประสงค์จะให้จังหวัดไปรับตัวกลับมาภูมิลำเนาอีก 44 คน และจะต้องผ่านขั้นตอนคัดกรองอย่างเข้มข้นเช่นกัน
สำหรับคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยใช้รถส่วนตัวจะต้องมารายงานตัวที่ที่ว่าการอำเภอ หรือ อสม.ในชุมชนทุกคน ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดทุกรายที่เดินทางมาทางเครื่องบิน จะต้องเข้าจุดคัดกรองและส่งกักตัวเช่นกัน ยกเว้นเฉพาะบางกลุ่มที่เดินทางมาติดต่อทำธุระชั่วคราว จะต้องผ่านการซักประวัติคัดกรองอย่างละเอียด หากพบว่ามีอาการผิดปกติก็ต้องถูกกักตัวและรักษาอาการในทันที
เตือน!คนไทยในมาเลย์อย่าเชื่อ ทำหนังสือปลอมเดินทางกลับประเทศ
เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โพสต์ข้อความแจ้งเตือนคนไทยในมาเลเซีย ว่ามีกลุ่มบุคคลที่แสวงประโยชน์โดยแอบอ้างว่าสามารถพาคนไทยในมาเลเซียกลับเข้าประเทศไทยได้ โดยใช้วิธีการปลอมหนังสือรับรองของสถานเอกอัครราชทูตไทยฯหรือสถานกงสุลใหญ่ไทยฯ ขอให้คนไทยอย่าหลงเชื่อและใช้วิธีการดังกล่าวซึ่งถือเป็นการปลอมเอกสารราชการ ถ้าถูกตรวจพบที่จุดผ่านแดน อาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท คนที่ต้องการคำแนะนำในการลงทะเบียนออนไลน์เพื่อขอรับหนังสือรับรองการเดินทางกลับเข้าไทย ขอให้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ที่หมายเลขโทรศัพท์ +6017 700 4822 /+6011 1172 1963/ +6011 1109 7463
CR:Faebook จังหวัดนครพนม