ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันอังคาร 5 พฤษภาคม 2563

05 พฤษภาคม 2563, 06:00น.


ชาวอังกฤษ ประท้วงต้านล็อกดาวน์ในกรุงลอนดอน 



          ประชาชนในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็ก ชูป้ายประท้วงเรียกร้อง "ไม่เอา การกักบริเวณ" แสดงพลังคัดค้านคำสั่งหยุดอยู่บ้านของรัฐบาล และถือป้ายข้อความว่า "สิทธิของเรา สิทธิการแสดงออกของเรา ร่างกายของเรา ไม่เอา5G" กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ บริเวณด้านนอกสำนักงานใหญ่ตำรวจนครบาลลอนดอน เนื่องจากคนกลุ่มนี้เชื่อในทฤษฎีสมคบคิดที่ว่าเครือข่ายโทรคมนาคมความเร็วสูง 5G มีความเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมอย่างรวดเร็ว มีรายงานว่าชายคนหนึ่งถูกจับไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของตำรวจและทำร้ายเจ้าหน้าที่ และถูกพาตัวไปคุมขัง

          ทางการอังกฤษ ระบุว่า ข่าวลือในลักษณะทฤษฎีสมคบคิด ระบุว่า เครือข่ายโทรคมนาคมความเร็วสูง 5G มีความเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  เป็นข่าวปลอม และเป็นอันตรายอย่างยิ่ง นายไมเคิล โกว์ฟ รัฐมนตรีประจำคณะรัฐบาลอังกฤษ กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวไร้สาระ และมีอันตรายแฝงมาด้วย หลังจากที่มีเสาส่งสัญญาณ 5G บางแห่งถูกเผาและทำลาย และพนักงานของบริษัทโทรคมนาคมบางแห่งถูกข่มขู่คุกคาม ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มารองรับ แต่กลับมีคนเชื่อจริงจัง และสร้างปัญหาต่อระบบสื่อสารในยามที่ต้องการใช้เพื่อติดต่อกรณีเร่งด่วน รวมถึงเครือข่ายโทรศัพท์ที่เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินและบุคลากรทางการแพทย์ต้องใช้ในช่วงที่กำลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 สถาบันจอห์น ฮอบกิ้น รายงานตัวเลขเมื่อเวลา 05.52 น. ผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 191,832 คน เสียชีวิต 28,809 ราย



ฝรั่งเศสใช้งบฯ7,000 ล้านยูโร ช่วยแอร์ฟรานซ์



          นางมาร์เกรธ เวสตาเกอร์ กรรมาธิการการแข่งขันของคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) อนุมัติเงินช่วยเหลือเสริมสภาพคล่องฉุกเฉินให้สายการบิน แอร์ ฟรานซ์ จำนวน 7,000 ล้านยูโร ของรัฐบาลฝรั่งเศส จากภาวะวิกฤตไวรัสโควิด-19 กรณีของแอร์ ฟรานซ์ ได้รับความช่วยเหลือในวงเงิน 4,000 ล้านยูโร จากการกู้ธนาคาร รัฐบาลค้ำประกันร้อยละ 90  และ 3,000 ล้านยูโร จากการให้กู้โดยตรงของรัฐบาล เพื่อแลกกับคำมั่นจากแอร์ ฟรานซ์ ที่จะปรับปรุงผลประกอบการให้มีกำไร และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สายการบินแอร์ ฟรานซ์ มีพนักงาน 84,602 คน บริษัทแม่ในปัจจุบันคือ แอร์ ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม กรุ๊ป ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสและรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ถือหุ้นร้อยละ 14 เท่ากัน ในส่วนของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ มีแผนจะให้ความช่วยเหลือสายการบินเคแอลเอ็ม จำนวน 2,000 - 4,000 ล้านยูโร ในรูปแบบของเงินกู้และการค้ำประกันเงินกู้ 



ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในรัสเซียพุ่งไม่หยุด 



          สถานการณ์ที่รัสเซีย ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง กลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดแห่งใหม่ในยุโรป  เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแห่งรัสเซีย เปิดเผยว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 145,268 คน เสียชีวิต 1,356 ราย กรุงมอสโก กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในรัสเซีย ในกลุ่มผู้ติดเชื้อทั้งหมดทั่วประเทศ มีอยู่ราวครึ่งหนึ่งที่อยู่ในเมืองหลวง เจ้าหน้าที่ได้ขยายช่วงเวลากักกันโรคไม่ต้องทำงานไปจนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม



          ด้านสเปน เริ่มเปลี่ยนผ่านสู่ขั้นใหม่ของการมุ่งสู่วิถีชีวิตแบบ "นิว นอร์มอล" ขณะที่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของประเทศรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงมาอยู่ที่ 218,011คน เสียชีวิต 25,428 ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด 2 วันติดต่อกัน แต่ความเสี่ยงก็ยังไม่หมดไป เนื่องจาก ในช่วงสุดสัปดาห์จากนี้อาจจะมีการรายงานตัวเลขรายใหม่เข้ามาได้



โรงเรียนมัธยมที่เวียดนาม กลับมาเปิดสอนในยุคโควิด-19



          หลังจากที่เวียดนามสั่งปิดโรงเรียนนาน 3 เดือน หรือนับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค. ตามมาตรการล็อกดาวน์ ที่มีความเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 และยกระดับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ก่อนเริ่มผ่อนคลายตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. โรงเรียนมัธยมศึกษาทุกแห่งในเวียดนามกลับมาเปิดเรียนในห้องเรียน แต่โรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถมศึกษายังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเรียน หมายความว่าต้องจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ต่อไปก่อน เนื่องจากต้องรอการพิจารณาจากรัฐบาลอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ขณะที่ มหาวิทยาลัย จะทยอยเปิดที่ละแห่ง



          เวียดนามมีประชากรอยู่ในวัยเรียนประมาณ 22 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศราว 97 ล้านคน เวียดนามยืนยันผู้ป่วยโรคโควิด-19 คนแรก เมื่อวันที่ 23 ม.ค.เป็นชายชาวจีนเดินทางจากเมืองอู่ฮั่น ของจีน เพื่อมาเยี่ยมลูกชายที่อาศัยอยู่ที่กรุงฮานอย และลูกชายเป็นผู้ป่วยคนที่ 2 ขณะที่จนถึงตอนนี้เวียดนามมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 271 คน และรักษาหายแล้ว 219 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ยังมีกลุ่มเฝ้าระวังและรอการสอบสวนโรคอีกอย่างน้อย 443 คน



ญี่ปุ่น ขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินจนถึง 31 พ.ค.



          นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น หารือร่วมกับคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อรับมือโควิด-19 มีมติให้ขยายประกาศภาวะฉุกเฉินที่บังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 เมษายนไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ประกาศนี้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เนื่องจาก มองว่า  จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ลดลงมากอย่างที่อยากให้เป็นและยังมีบางจังหวัดที่จำนวนผู้ป่วยมากเกินไปส่งผลกระทบต่อระบบการรักษาทางการแพทย์



          สำหรับ 13 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งกรุงโตเกียวและโอซากา สองพื้นที่ที่มีการระบาดมากที่สุด มีเป้าหมายในการลดการติดต่อจากคนสู่คนให้ได้ร้อยละ 80 ผู้นำญี่ปุ่น กล่าวว่า จะพิจารณายกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินโดยไม่ต้องรอจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม หากที่ปรึกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นให้ดำเนินการได้โดยพิจารณาจากการวิเคราะห์ทิศทางการระบาดและการติดเชื้อไวรัส ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในญี่ปุ่น อยู่ที่ 14,877 คน เสียชีวิต 487 ราย



อินเดีย สั่งปิดร้านเหล้าในกรุงนิวเดลี หลังมีคนแห่ไปรอซื้อ



          ตำรวจในกรุงนิวเดลี  อินเดีย ต้องสั่งปิดร้านสุราในบางพื้นที่ทันที หลังจากที่เปิดให้บริการไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากตำรวจพบว่า มีคนไปยืนเข้าแถวอยู่หน้าร้านสุราจำนวนมาก ทำให้ยากที่จะควบคุมให้มีการทำตามกฎระเบียบคือการให้ลูกค้ายืนห่างกันในระยะ 6 ฟุต และให้ลูกค้าเข้าไปซื้อของในร้านค้าครั้งละ 5 คน รัฐบาลอินเดีย ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ที่มีผู้ป่วยใหม่ลดลงต่อเนื่อง แต่ปัญหาสำคัญคือการรณรงค์ให้ประชาชนทำตามกฎระเบียบเรื่องเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด ผู้ติดเชื้อในอินเดีย อยู่ที่ 46,467 คน เสียชีวิต 1,566 ราย



อิหร่าน ผ่อนคลายมาตรการ เปิดฉายหนังกลางแปลง



          ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำโรงภาพยนตร์ทั่วอิหร่าน ต้องปิดการฉายภาพยนตร์ เพื่อผ่อนคลายความเครียดให้ประชาชนอิหร่านเปิดฉายหนังกลางแปลงที่ลานกว้างของอาคารสูงกรุงเตหะราน ผู้ชมสามารถขับรถเข้ามาชมได้ แต่ต้องเว้นระยะห่าง รถแต่ละคันต้องนั่งมาคันละไม่เกิน 2 คน รถทุกคันต้องฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อก่อนเข้ามาในพื้นที่ ทางการอิหร่าน เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคหลายอย่าง เนื่องจากหลายวันที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่อเนื่อง ผู้ติดเชื้อสะสม 98,647 คน เสียชีวิต 6,277 ราย



CR:BBC,AFP

ข่าวทั้งหมด

X