ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันจันทร์ 4 พฤษภาคม 2562

04 พฤษภาคม 2563, 13:52น.


ที่ปรึกษาด้านโควิด-19 สธ. เผยผลตรวจเชิงรุก ยะลา 40 คน ที่เป็นบวก เป็นการรายงานคลาดเคลื่อน



          นพ.ไพจิตร์ วราชิต ที่ปรึกษาด้านโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง กรณีผลการตรวจเชิงรุกในพื้นที่อำเภอยะหา จังหวัดยะลา และให้ผลเป็นบวกถึง 40 คน ว่า เรื่องนี้จากการตรวจสอบจากพื้นที่แล้ว และนำตัวอย่างเชื้อของกลุ่มคนทั้งหมดไปตรวจสอบยืนยันที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ จังหวัดสงขลา อีกครั้ง พบให้ผลเป็นลบ เชื่อว่า ผลบวกที่ได้ตอนแรก เป็นผลบวกลวง เนื่องจากความคลาดเคลื่อนในการติดตั้งเครื่องสกัด อาร์เอ็นเอ อาจทำให้มีการปนเปื้อนของเชื้ออื่น ทำให้เกิดผลบวกลวง และขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ และคาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการแถลงผลให้ทราบอย่างเป็นทางการ



          นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผลตรวจครั้งที่ 2 ชาวยะลา 40 คน ผลยืนยันว่า เป็นลบ (ไม่ติดเชื้อโควิด-19) ทราบว่าผลตรวจที่เป็นบวกในครั้งแรกเกิดจากความผิดพลาดของเครื่องในจ.ยะลา



ราชทัณฑ์เปิด line visit ให้ญาติคุยนักโทษ



          นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า กรณีกรมราชทัณฑ์กำหนดมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ ด้วยการงดให้ญาติมาเยี่ยม และได้นำเทคโนโลยีการเยี่ยมญาติผ่านหน้าจอมือถือ โดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ หรือ line visit แทน มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก และสามารถทำได้เองตามขั้นตอนที่กรมราชทัณฑ์กำหนด เพียง 3 ขั้นตอน คือ



1. ให้ญาติผู้ต้องขังกดเพิ่มเพื่อน ของ ID Line ที่ชื่อว่า visit cida หรือ ทางคิวอาร์โค้ด



2. เข้าสู่การลงทะเบียนเพื่อแสดงตัวตน โดยใช้เอกสาร 2 ฉบับ คือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน และภาพถ่ายใบเสร็จชำระค่าบริการของหมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียบซิมโทรศัพท์มือถือที่ใช้เป็นหมายเลขเพื่อติดต่อทางไลน์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ รวมถึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเมื่อผ่านการตรวจสอบแล้ว



3. ญาติที่ประสงค์จะเยี่ยมผู้ต้องขังต้องแจ้งความประสงค์ขอเยี่ยมผ่านทางไลน์ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะจัดคิวและแจ้ง วัน เวลา นัดหมายให้วิดีโอคอล ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อเยี่ยมผู้ต้องขัง โดยให้เยี่ยมได้ครั้งละไม่เกิน 10 นาที เพื่อให้บริการกับญาติผู้ต้องขังรายอื่นอย่างทั่วถึง ทั้งนี้  สำหรับญาติของผู้ต้องขังที่จะลงทะเบียนได้นั้น ต้องเป็นไปตามรายชื่อที่ผู้ต้องขังแจ้งไว้กับ เจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่เกิน 10 คน การเยี่ยมแบบ Line visit จะให้สิทธิ์ผู้ต้องขังเดือนละ 1 ครั้ง ยกเว้นในรายที่เป็นผู้ต้องขังห้ามเยี่ยม เพราะทำผิดวินัย แม้การเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จะเข้มข้นมากในหลายพื้นที่ แต่เพื่อรักษาสัมพันธภาพระหว่างผู้ต้องขังและญาติ และลดอาการเครียดของผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ จึงต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าช่วย แต่ยอมรับว่าการวิดีโอคอล อาจมีผู้บันทึกภาพนิ่ง เสียง หรือวิดีโอ เพื่อไปเผยแพร่สู่โลกภายนอกได้ จึงขอเตือนว่า ห้ามกระทำ เพราะจะถูกตัดสิทธิ์การเยี่ยมผ่านระบบ Line visit ทันที



ผู้นำสหรัฐฯ อ้างรู้เรื่องโควิด-19 กลางเดือน 23 ม.ค.



          สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ นิวส์ ของสหรัฐฯ จัดเวทีอภิปรายแสดงวิสัยทัศน์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์สำหรับตัวแทนผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันคือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  ผู้นำสหรัฐฯ โดยมีอนุสรณ์สถานลินคอล์นในกรุงวอชิงตันดี.ซี .เป็นภาพฉากหลังของรายการ นายทรัมป์ เปิดเผยว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯได้สรุปเรื่องสถานการณ์เรื่องโรคโควิด-19 ให้ทราบครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มกราคม ระบุว่า เป็นการพูดคุยกันในช่วงเวลาสั้นๆก่อนที่หน่วยข่าวกรองจะออกแถลงการณ์ที่เป็นทางการในเวลาต่อมา ระบุว่ามีแนวโน้มที่โรคโควิด-19 อาจจะแพร่ระบาดจากประเทศจีนเข้ามายังสหรัฐฯ นายทรัมป์ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าในช่วงนั้นโรคโควิด-19 ยังไม่แพร่ระบาดในสหรัฐฯอย่างแท้จริง แต่รัฐบาลทราบดีว่าจะต้องจัดทำแผนควบคุมการแพร่ระบาดอย่างจริงจัง



          ด้านซีเอ็นเอ็น ตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายทรัมป์ อ้างว่าเพิ่งทราบเรื่องเมื่อวันที่ 23 มกราคม เป็นช่วง 3 วันหลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯพบผู้ป่วยโควิด-19 ชาวอเมริกันเป็นคนแรกในรัฐวอชิงตัน เมื่อวันที่ 21 มกราคม เป็นชายวัย 30 ปีเศษ ที่กลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 มกราคม ซึ่งช่วงนั้น สหรัฐฯยังไม่มีมาตรการกักกันกลุ่มเสี่ยงรายแรกๆที่กลับจากประเทศจีน



          นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็น ตั้งข้อสังเกตว่า ความจริงแล้ว นายทรัมป์ น่าจะทราบเรื่องก่อนหน้านั้น โดยระบุว่า นายอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ ได้คุยโทรศัพท์กับนายทรัมป์ เรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 18 มกราคมด้วย สหรัฐฯมีผู้ป่วยสะสม 1,158,040 คน เสียชีวิต 67,682 ราย ส่วนใหญ่ในรัฐนิวยอร์ก และรัฐมิชิแกน



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X