นักวิเคราะห์เผยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทบโรงงานทั่วเอเชีย,การผลิตต่ำสุดนับแต่วิกฤตศก.ปี 52

         นายอเล็กซ์ โฮมส์ นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทแคปปิตอล อีโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ผลสำรวจทางธุรกิจ คือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โดยบริษัท ไอเอชเอส มาร์กิต บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำของอังกฤษ บ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก กระทบโรงงานผลิตทั่วเอเชียในเดือนเมษายน ต่อเนื่องจากเดือนมีนาคม ทำให้ดัชนี PMI ของบางประเทศในเอเชีย ลดลงในเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ แนวโน้มในอนาคตสำหรับโรงงานในเอเชียจะไม่สดใสเท่าที่ควร เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์ รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาด ทำให้โรงงานทั่วโลกหยุดผลิตสินค้าไปโดยปริยาย ขณะที่การสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานลดลงต่อเนื่อง

          นายโฮมส์ คาดว่า การสั่งซื้อสินค้าเอเชียจากสหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรปจะลดลงมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนประเทศจีน ซึ่งเริ่มฟื้นการผลิตโรงงานอุตสาหกรรมเมื่อเร็วๆนี้ แต่คาดว่า การสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานจีนจากทั่วโลกจะอ่อนแอในระยะนี้ สำหรับดัชนี PMI ในประเทศหลักๆของเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของเอเชีย ดัชนี PMI ร่วงมาที่ 41.6 ในเดือนเมษายน จาก 44.2 เมื่อเดือนมีนาคม ต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกเดือนมกราคม 2552

          ขณะที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯและประเทศจีน ดัชนี PMI ร่วงมาอยู่ที่ 41.9 ในเดือนเมษายน จาก 44.80 ในเดือนมีนาคม ต่ำสุดในรอบ 11 ปี ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ถือว่า ดัชนี PMI ที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมลดลง ขณะที่ ตัวเลขที่สูงกว่า 50 ถือว่ามีการผลิตสูงขึ้น ส่วนประเทศจีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับสองของโลก ดัชนี PMI ในเดือนเมษายน ลดลงมาที่ 50.8 จาก 52 ในเดือนมีนาคม คาดว่า โรงงานผลิตของจีนจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น แต่คาดว่าโรงงานผลิตส่วนใหญ่ของจีนจะยังไม่เดินหน้าเครื่องจักรในการผลิตเต็มที่ เนื่องจาก คำสั่งซื้อสินค้าจีนจากทั่วโลกยังมีไม่มากเท่าที่ควร

Cr: reuters