ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. วันจันทร์ 4 พฤษภาคม 2563

04 พฤษภาคม 2563, 10:16น.


มท.สั่งจังหวัดทางผ่านไม่ต้องกักตัว ส่วนจังหวัดปลายทางให้ดูความเหมาะสม 



          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า การเดินทางต้องมีเหตุจำเป็นต้องมีเหตุผลและหลักฐานนำไปแสดง ในส่วนของพื้นที่ต้องปฏิบัติการคัดกรองให้เป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมโรค ส่วนที่สงสัยว่าหากเดินทางข้ามจังหวัดแล้วต้องถูกกักตัว 14 วัน ในเส้นทางผ่านหรือไม่ และสงสัยว่าหากเดินทางไปทำธุระใน จังหวัดนั้นๆ เพียงแค่ 2-3 วัน เมื่อไปถึงภูมิลำเนาแล้วจะต้องถูกกักตัว 14 วันหรือไม่ เจ้าหน้าที่รัฐเข้าใจความเป็นจริงและสภาพปัญหา ส่วนที่ถามว่าจะต้องถูกกักตัว 14 วันในแต่ละพื้นที่ที่ผ่านไปตลอดหรือไม่ ไม่เป็นความจริง เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ระหว่างทางจะมีด่านตรวจและนำไปสู่กระบวนการกักตัวในภูมิลำเนาเป้าหมาย เป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้ร่วมกันทุกจังหวัด



          ส่วนจังหวัดปลายทาง ซึ่งเป็นจังหวัดภูมิลำเนาของผู้เดินทางให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่จังหวัดมีประกาศ/คำสั่งไว้ หากมีกรณีสงสัยหรือข้อบ่งชี้ที่ชัดเจน ให้พิจารณานำเข้าสู่กระบวนการกักกันตัวเพื่อสังเกตอาการ ณ ที่พักอาศัย (Home Quarantine) ได้ตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับแนวทางที่จังหวัดกำหนดไว้ ให้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและความเหมาะสม



เช็กด่วน! บินไปจังหวัดไหน แล้วต้องกักตัว 14 วัน



          นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวถึง ประกาศคำสั่งของจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและการดำเนินงานของท่าอากาศยานในสังกัด ทย. ว่าบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่ต้องกักตัว 14 วัน ได้แก่ 1.จังหวัดพิษณุโลก 2. จังหวัดบุรีรัมย์ 3.จังหวัดกระบี่ 4.จังหวัดตรัง 5.จังหวัดนครพนม



-1.จังหวัดพิษณุโลก เมื่อผู้โดยสารเดินทางถึงท่าอากาศยานพิษณุโลก



- คนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก หากพักที่บ้านต้องกักตัว พร้อมบุคคลในบ้าน 14 วัน หรืออาจเลือกพัก ที่โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ Save Phisanulok 14 วัน



- กรณีคนต่างจังหวัด มาลงเครื่อง ที่ท่าอากาศยาน และจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ให้เดินทางออกจากจังหวัดได้ทันที และต้องไม่แวะทำกิจกรรมใด ๆ ภายในจังหวัดพิษณุโลก



2. จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ผู้โดยสารทุกคน ที่เดินทางเข้าจังหวัดบุรีรัมย์ จะต้องกักตัว 14 วัน หลังจากกักตัวจะได้สติ๊กเกอร์ติดบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (บุคคลต่างด้าว)



3. จังหวัดกระบี่ เมื่อผู้โดยสารเดินทางถึงท่าอากาศยานกระบี่



- ห้ามบุคคลภายนอกพื้นที่เข้ามาในจังหวัดกระบี่ เว้นแต่ได้รับการยืนยันผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด–19 จากพื้นที่ต้นทาง โดยให้แสดงหลักฐานการกักตัว ครบระยะเวลาที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด



- กรณีบุคคลที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากพื้นที่ต้นทาง หรือไม่มีเอกสาร ตามข้อ 1. จะต้องเข้าสู่กระบวนการกักกัน ณ สถานที่กักกันตัว (Local Quarantine) ที่อำเภอกำหนดไว้ ตามระยะเวลาและมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยประชาชนจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตาม ที่ทางราชการกำหนด



4. จังหวัดตรัง เมื่อผู้โดยสารเดินทางถึงท่าอากาศยานตรัง



- ผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดตรัง ต้องเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดตรัง หากเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานในจังหวัดตรัง ต้องมีหนังสือรับรองการปฏิบัติงาน ทุกกรณีต้องมีใบรับรองแพทย์ และมีหนังสือรับรองจากพื้นที่ต้นทางและต้องกักตัว 14 วัน ในสถานที่ที่จังหวัดกำหนด



5. จังหวัดนครพนม เมื่อผู้โดยสารเดินทางถึงท่าอากาศยานนครพนม ต้องปฏิบัติดังนี้



- อนุญาตให้เฉพาะผู้โดยสารที่จะเดินทางสามารถเข้าในอาคารที่พักผู้โดยสารได้เท่านั้น ส่วนญาติ ผู้มารับ – ส่ง ไม่อนุญาตให้เข้าในอาคาร



- ห้ามไม่ให้ต่างด้าวเข้าจังหวัดนครพนม ด้วยวิธีการใดๆ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม



          สำหรับจังหวัดปลายทางที่ไม่มีเงื่อนไขในการเข้า-ออก และไม่มีมาตรการปิดจังหวัด ได้แก่ จังหวัดลำปาง ตาก (แม่สอด) สกลนคร ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี



ผบช.น.สั่งตำรวจกำชับเจ้าของตลาด-ผู้ค้า ทำตามมาตรฐานคุมโควิด-19



          พล.ต.ท.ภคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  ระบุว่า ตลาดนัดเป็นสถานที่อีกแห่งที่เจ้าหน้าที่ต้องเร่งวางแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ขณะนี้ให้ตำรวจพื้นที่ต่างๆ ทำความเข้าใจกับเจ้าของตลาด ผู้ค้า ให้ทำตามเงื่อนไขของมาตรการอย่างเข้มงวด เนื่องจาก พื้นที่ตลาดเป็นพื้นที่ที่คนมาซื้อของจำนวนมาก เป็นพื้นที่ชุมชน ต้องคุมเข้มตามมาตรฐาน



         นอกจากนี้ ลงพื้นที่ดูสถานที่ที่ได้รับการผ่อนปรนกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง ภายใต้เงื่อนไขการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทั้งร้านตัดผมและเสริมสวย ย่านสยามสแควร์ เขตปทุมวัน เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการจัดเตรียมสถานที่ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม มีการตรวจวัดไข้ จัดวางเจลแอลกอฮอล์ ผู้ให้บริการและลูกค้าใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตลอดเวลา รวมทั้งรับบริการเฉพาะลูกค้าที่นัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น ตลอดการให้บริการต้องพูดคุยกันเท่าที่จำเป็น ก่อนจะมีการทำความสะอาดร้านทุก 2 ชั่วโมง



         สวนสาธารณะลุมพินี ถนนพระราม 4 มีมาตรการให้ทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ก่อนผ่านตรวจวัดไข้ โดยอนุญาตให้ทำกิจกรรมเฉพาะการเดิน วิ่ง ไม่อนุญาตให้มีการใช้เครื่องกายบริหารทุกชนิด งดเว้นการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมของชมรมต่างๆ หากผู้ใช้บริการต้องการนั่งพักต้องเว้นระยะห่าง 2 เมตร และไม่อนุญาตให้มีการนั่งจับกลุ่มกินอาหาร เครื่องดื่มในสวนสาธารณะ



CR:Facebook กระทรวงมหาดไทย



 

ข่าวทั้งหมด

X