กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ออกประกาศเตือนภัย การใช้บริการฉีดวัคซีน วิตามิน หรือโอโซน ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลงในระดับหนึ่งแล้ว แต่ประชาชนบางรายก็อาจจะยังมีความวิตกกังวล ทำให้สถานพยาบาลบางแห่งฉวยโอกาสจากความกลัวของประชาชน แอบอ้าง หรือทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อบริการของสถานพยาบาลว่าสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน หรือรักษาอาการของโรคโควิด-19 อาทิ การให้บริการฉีดวัคซีน ฉีดวิตามิน หรือการให้โอโซน ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นกังวลอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ให้ได้รับบริการแพทย์ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย สบส.จึงได้ประชุมหารือร่วมกับ รองศาสตราจารย์ (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และแพทยสภา ซึ่งผู้ทรงคุณวุฒิฯต่างมีความคิดเห็นตรงกันว่าการให้บริการ ฉีดวัคซีน ฉีดวิตามิน หรือการให้โอโซน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหรือต้านโรคโควิด-19 ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หรืองานวิจัยที่ยืนยันได้แน่ชัดโดยปราศจากข้อโต้เถียงทางการแพทย์ว่าสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 จึงขอให้หลีกเลี่ยงการรับบริการเพราะอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ และการที่สถานพยาบาลชักชวนให้ประชาชนรับบริการโดยอ้างว่าสามารถป้องกันโรคได้นั้นยังถือว่าเป็นการโฆษณาเป็นเท็จโอ้อวดเกินจริงอีกด้วย
ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีสบส. กล่าวว่า สำหรับโทษของผู้ที่กระทำการโฆษณาเป็นเท็จโอ้อวดเกินจริงหรือน่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการของสถานพยาบาล ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 พ.ศ.2559 กำหนดให้ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทจนกว่าจะระงับการโฆษณา โดยในการป้องกันโรคโควิด-19 เพียงประชาชนใส่ใจต่อพฤติกรรมสุขภาพ มีการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากที่พัก และล้างมือให้บ่อย ก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้โดยไม่ต้องเสียทรัพย์สิน
...