ชาวเยอรมันจำนวนมากฝ่าฝืนกฎหมายห้ามการชุมนุมในที่สาธารณะด้วยการเข้าร่วมการชุมนุมที่จัตุรัสในกรุงเบอร์ลิน เพื่อแสดงสัญลักษณ์เนื่องในวันแรงงานสากล (1 พ.ค.) พร้อมยื่นข้อเรียกร้องหลายเรื่อง รวมถึงความไม่พอใจมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่ทำให้อัตราการว่างงานในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นมากกว่า 373,000 คน โดยตำรวจที่กรุงเบอร์ลิน ได้ปิดกั้นถนนรอบพื้นที่การชุมนุมแล้ว และมีการเสริมกำลังตำรวจปราบจลาจล เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าสถานการณ์ยังเป็นไปอย่างเรียบร้อยดี ผู้เข้าร่วมการชุมนุมส่วนใหญ่สวมหน้ากาก แต่ก็มีอีกหลายคนที่ดื่มเบียร์ และสูบบุหรี่
กลุ่มฝ่ายซ้ายซึ่งจัดการชุมนุมประท้วง ได้ยื่นข้อเรียกร้องหลายเรื่อง ตั้งแต่การต่อต้านลัทธิทุนนิยม เรียกร้องให้มีความร่วมมือกันมากขึ้น และการสนับสนุนให้มีความช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยที่ต้องการเดินทางมายุโรป โดยมีป้ายผ้าขนาดใหญ่ที่ระบุว่า “การช่วยชีวิตไม่ใช่อาชญากรรม”
อย่างไรก็ตามสื่อในเยอรมนี ต่างระบุว่า การชุมนุมในครั้งนี้นับเป็นภาพหายากในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อทางการเยอรมนี ประกาศใช้มาตรการปิดเมือง และการรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 แต่ในขณะนี้รัฐบาลได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ แล้ว โดยในสัปดาห์นี้ ร้านค้าขนาดเล็กเริ่มเปิดบริการ และในสัปดาห์หน้าสนามเด็กเล่น พิพิธภัณฑ์และโบสถ์จะเปิดให้บริการ
...