ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.20 น.วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563

ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 6 คนไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 6 คน ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดและหลักเดียวต่อเนื่อง ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,960 คน จำนวนผู้ที่หายป่วยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,719 คน หายป่วยเพิ่มขึ้นอีก 32 คน และวันนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงอยู่ที่ 54 ราย

          โดยในช่วง 28 วัน มีรายงานผู้ป่วยใน 42 จังหวัด, ไม่มีรายงานผู้ป่วย 26 จังหวัด และมีอยู่ 10 จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง และ สตูล

          โฆษก ศบค.กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงกรณีที่มีการเดินทางเพิ่มมากขึ้น หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากคลายความกังวลและสบายใจ จึงขอให้ทุกคนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด

บุรีรัมย์ส่งผู้ป่วยรายสุดท้ายกลับบ้าน

          ที่โรงพยาบาลละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์วันนี้ มีการแสดงความยินดีส่งผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คนสุดท้ายกลับบ้านโดยเป็นเพศหญิง อายุ 24 ปี โดยจ.บุรีรัมย์มีผู้ป่วยทั้งหมด 13 คน โดยก่อนที่จะส่งกลับคณะแพทย์ได้รักษาตามขั้นตอนจนหายขาด แล้วตรวจซ้ำซึ่งไม่พบเชื้อแล้ว แต่ยังให้กักตัวต่ออีก 14 วัน จึงให้กลับบ้านได้

สธ.คาดคนติดเชื้อโควิด-19 แฝงในชุมชน 5 เท่า

          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันลดลงเหลือน้อยสุดในรอบเกือบ 2 เดือน อัตรารักษาหายอยู่ที่ร้อยละ 92 ซึ่งในช่วงเวลาหลังจากที่รัฐบาลมีการประกาศผ่อนปรน 6 กิจการ/กิจกรรมในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้จะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าหลังผ่อนปรนมาตรการ 2 สัปดาห์จำนวนผู้ป่วยรายใหม่จะไม่เพิ่มขึ้นมาก แม้จะมีการคาดการณ์ว่ามีผู้ติดเชื้อแฝงที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย อยู่ในชุมชนมากกว่าจำนวนที่พบผู้ป่วยรายวัน 5 เท่า เช่น วันนี้พบ 6 คนก็อาจจะมีคนที่ไม่มีอาการอยู่ 30 คน แต่หากใส่หน้ากากป้องกันและล้างมือบ่อยๆโอกาสที่จะติดเชื้อก็จะต่ำ

สธ.เร่งตรวจแรงงานต่างด้าว

         นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากกรณีของสิงคโปร์ ที่มีผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างชาติ โดยสิงคโปร์มีแรงงานต่างชาติมากกว่า 300,000คน ขณะที่ประเทศไทยมีจำนวนแรงงานมากกว่า 3,000,000รายที่ขึ้นทะเบียน และยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีกจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุข จึงเร่งให้ความรู้แก่แรงงานต่างชาติที่อยู่ในชุมชนต่างๆ และสุ่มตรวจหาเชื้อจากกลุ่มเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งจากข้อสงสัยที่ว่ามีผู้ติดเชื้อน้อยเพราะเราตรวจน้อยเกินไปหรือไม่ ยืนยันว่า เราไม่ได้ตรวจน้อย แต่เป็นการตรวจแบบมีหลักการมีเป้าหมาย

คลังยืนยันกลางเดือนพฤษภาคมนี้ จ่ายเยียวยา 5,000 บาทครบ 16 ล้านคน

          ความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยา 5,000บาท นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายในกลางเดือนพฤษภาคมนี้ กระทรวงการคลังจะเร่งโอนเงินให้แก่ผู้ที่ผ่านสิทธิ์ครบ 16 ล้านคน ตามที่ผู้พิทักษ์สิทธิ์ได้ตรวจสอบและยืนยันตัวตนและขอให้ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าไปตรวจสอบสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน โดยไม่ต้องเดินทางมาที่กระทรวงการคลัง

          นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ตัวเลขผู้ที่ผ่านเกณฑ์รับเงินเยียวยาทั้งสิ้น 11 ล้านคน ล่าสุดจ่ายเงินไปแล้ว 8,600,000 คน เหลืออีกจำนวน 2,400,000 คน ที่จะต้องจ่ายเงินให้หมดภายในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้

ภูเก็ตปิดด่านท่าฉัตรไชยงดให้เดินทางออกแล้ว

          ด่านตรวจภูเก็ต หรือด่านตรวจท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ต้องปิดทำการเนื่องจากมีผู้ที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก หลังจากที่มีการเปิดด่านวันแรกวันนี้เพื่อให้ผู้ที่ลงทะเบียนไว้สามารถเดินทางออกจากจังหวัดได้ ซึ่งปรากฏว่าตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้มีผู้ที่เดินทางมารอเดินทางออกจากจังหวัดจำนวนมาก โดยรถแต่ละคันจะมีการติดสติ๊กเกอร์แบ่งเป็น 3 สี คือสีชมพู สำหรับชาว จ.พังงา ขอเข้าพื้นที่พังงา, สีน้ำเงิน สำหรับชาว จ.ระนอง ขอเข้าพื้นที่ระนอง และสีเหลือง สำหรับผู้ที่จะขอผ่าน จ.พังงา ไปยังจังหวัดอื่น ๆ

          แต่ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตมีคำสั่งให้ระงับการเปิดด่านแล้ว โดยระบุว่าจะอนุญาตเฉพาะผู้ที่มีความจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น และให้รอดูสถานการณ์ในวันที่ 3 พฤษภาคมอีกครั้ง

          ส่วนที่จังหวัดพังงา จัดให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ตต้องเข้าสู่การคัดกรอง และเข้ารับกักตัวในสถานที่อำเภอจัดไว้ให้เป็นเวลา 14 วันก่อนจึงจะได้กลับบ้าน

มาเลเซียเตรียมผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดตั้งแต่ 4 พ.ค.

          นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน แห่งมาเลเซีย แถลงว่าในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีการบังคับใช้มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มีนาคม โดยจะอนุญาตให้เปิดธุรกิจบางส่วน แต่ไม่อนุญาตให้เปิดธุรกิจที่มีการรวมคนหมู่มาก เช่น โรงภาพยนตร์ และตลาดขายอาหารในเดือนรอมฎอน ส่วนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ ยังต้องปิดต่อไปอีกระยะหนึ่ง และกล่าวว่า จากคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมด้วยองค์การอนามัยโลก รัฐบาลมาเลเซียจึงตัดสินใจที่จะเปิดเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง โดยจะยังคงบังคับใช้มาตรการที่คำนึงถึงมาตรฐานสุขภาพอย่างเข้มงวด เช่น การสวมหน้ากากอนามัย, การเว้นระยะห่างทางสังคม และการส่งเสริมให้ประชาชนรักษาสุขอนามัยส่วนตัวในระดับสูง

          นายกฯ มาเลเซียยอมรับว่า มาตรการจำกัดการเดินทางที่บังคับใช้มานานกว่า 6 สัปดาห์ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไปมากถึง 63,000 ล้านริงกิต และคาดว่าจะสูญเสียอีก 35,000 ล้านริงกิตหากขยายเวลาปิดเมืองต่อไปอีก 1 เดือน ธนาคารกลางมาเลเซียประเมินเมื่อเดือน มีนาคมว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างการหดตัวร้อยละ 2 กับการเติบโตร้อยละ 0.5 ซึ่งถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ แม้ว่ารัฐบาลมาเลเซียจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 250,000 ล้านริงกิต ซึ่งรวมถึงการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 25,000 ล้านริงกิต

ญี่ปุ่นเตรียมต่อเวลามาตรการฉุกเฉินทั่วประเทศอีก 1 เดือน

          นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เขาจะขยายเวลาการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ออกไปอีกประมาณ 1 เดือน ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ  โดยในวันจันทร์หน้า (4 พ.ค.) นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายและจะแถลงรายละเอียดอีกครั้ง

นอร์เวย์ร่วมลดการผลิตน้ำมันครั้งแรกในรอบ 18 ปี

          นอร์เวย์ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของยุโรปได้เข้าร่วมกับกลุ่มโอเปก และประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ กระทรวงน้ำมันและพลังงานของนอร์เวย์เปิดเผยว่า นอร์เวย์จะปรับลดการผลิตน้ำมันลง 250,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายน หรือมากกว่าร้อยละ 13 ของการผลิตทั้งหมดราว 1,860,000 บาร์เรลต่อวัน และจะลดการผลิตลง 134,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

...

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 -ศบค.