ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.ประจำวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563

01 พฤษภาคม 2563, 07:11น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.ประจำวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม  2563



คลายล็อก 6 กิจการ เริ่มเปิด 3 พ.ค.



         พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ยืนยันว่า การออกมาตรการต่างๆนั้น ต้องผ่านการพิจารณาของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีความปลอดภัย และเพื่อสุขภาพของประชนเป็นหลัก 



ยอดผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่องพบใหม่ 7 คน



          ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยว่า ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 7 คน อยู่ในกทม. 3 คน ภูเก็ต 3 คน กระบี่ 1คน ทำให้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อยืนยันอยู่ที่ 2,954 คนมีผู้ได้รับการรักษาหายและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้อีก 22 คน ทำให้มีผู้รักษาหายและกลับบ้านแล้วรวมเป็น 2,687 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมยังอยู่ที่ 54 ราย และขณะนี้มีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 213 คน



         กลุ่มกิจกรรมแรกที่ได้รับความเห็นชอบจาก ผอ.ศบค.และทีมงานมี 6 กลุ่ม ได้แก่



1.ตลาด ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย



2.ร้านจำหน่ายอาหาร อาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้างสรรพสินค้า) ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่



3.กิจการค้าปลีก-ส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง ยืน รับประทาน รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อย ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านค้าปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม



4.กีฬา สันทนาการ กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดิน รำไทเก็ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่ได้มีการแข่งขัน เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม



5.ร้านตัดผม เสริมสวย เฉพาะตัด สระ ไดร์



6.อื่นๆ ได้แก่ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์ สำหรับกิจกรรมใดที่ผู้ประกอบการปรับตัวได้ก็ให้เริ่มวันที่ 3 พฤษภาคมได้ทันที และจะใช้เวลา 14 วันหลังจากนี้ เพื่อติดตามประเมินผลตลอดเวลา คือ ขยับทีละ 25% 4 ครั้งก็จะครบ 100% แต่ระยะเวลาจะเท่าไหร่ก็ให้เวลาไว้ 14 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาของโรค ที่จะดูได้ว่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือลดลง ถ้าเป็นไปตามขั้นตอนก็จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ซึ่งโรคจะหายใน 2 เดือนหรือไม่ ไม่ได้เกิดจากข้อมูลในประเทศอย่างเดียว แต่ต้องเอาตัวเลขจากประเทศต่างๆรอบบ้านยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ก็อาจเป็นตัวแปรหนึ่งในการเข้ามาประเมินด้วย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป็นคำตอบชัดเจน



          ขณะที่นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ชี้แจงถึงการผ่อนปรนมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19ว่า หากดำเนินการได้ดี ในระยะเวลา 14 วัน จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ไม่น่าจะเพิ่มเกิน 20-30 คนและหากระยะที่ 1 ดำเนินการไปแล้วพบผู้ป่วย 20-30 คน ก็จะดำเนินการระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ต่อไปได้



กต.พร้อมเจรจาพาคนไทยกลับบ้าน



          นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 4-29 เมษายน มีคนไทยในต่างประเทศเดินทาง ทางอากาศกลับมาแล้ว 3,169 คน และผู้ที่เดินทางกลับมา ทางบก ระหว่างวันที่ 18-29 เมษายน มีจำนวน 3,974 คน รวมเป็น 7,143 คน ทั้งหมดต้องเข้าพักในพื้นที่ควบคุมกักกันโรคที่รัฐกำหนด เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อจำนวน 78 คน คิดเป็นร้อยละ 1.09 ของคนไทยที่กลับจากต่างประเทศทั้งหมด



          ทั้งนี้ ในการเดินทางกลับมา ผู้เดินทางจะรับผิดชอบค่าบัตรโดยสารเอง ซึ่งจากมาตรการระยะห่างทางสังคมทำให้มีจำนวนที่นั่งที่จำกัด อาจทำให้ค่าบัตรโดยสารที่สายการบินเรียกเก็บมีราคาสูงกว่าในสถานการณ์ปกติ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะช่วยเจรจาเรื่องราคาบัตรโดยสารกับสายการบินให้ได้ราคาที่เหมาะสมที่สุด



4 สายการบิน เริ่ม 66 ไฟลท์ภายในประเทศวันนี้



         ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ในวันที่ 1 พ.ค. จะมีสายการบินเริ่มทยอยกลับมาให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ โดยที่สนามบินดอนเมือง จะมีประมาณ 40 เที่ยวบิน (80 เที่ยวบินไป/กลับ) จากปกติที่มีประมาณ 10 เที่ยวบิน (20 เที่ยวบินไป/กลับ)



          โดยสายการบินที่แจ้งทำการบินได้แก่ นกแอร์  ซึ่งที่ผ่านมา นกแอร์ยังไม่เคยหยุดทำการบิน โดยในวันที่ 1 พ.ค. นกแอร์ ได้ขอเพิ่มเที่ยวบิน รวมเป็น 20 เที่ยวบิน, ไทยแอร์เอเชีย จำนวน 18 เที่ยวบิน ไทยไลอ้อนแอร์ จำนวน 4 เที่ยวบิน



          ทั้งนี้ ทอท.ได้ประชุมหารือร่วมกับสายการบินเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติ ในการให้บริการทั้งในส่วนของสนามบินและสายการบินจะต้องปฏิบัติตามประกาศ กพท.อย่างเคร่งครัด ส่วนผู้โดยสารจะต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ภายในสนามบินหรือรถบัสส่ง ผู้โดยสารจะต้องมีการเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1 เมตร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงสัปดาห์แรก สายการบินจะมีการประเมินจำนวนผู้โดยสารก่อนว่าจะกลับมาใช้บริการมากน้อยเพียงใด จากนั้นจะมีการขอเพิ่มเที่ยวบินต่อไป



สนามบินไทยทั่วประเทศมี 26 ไฟลท์



          รายงานข่าวจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) แจ้งว่า วันที่ 1 พ.ค. นี้ จะมีสายการบินภายในประเทศ 4 สาย ได้แก่ นกแอร์, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยไลอ้อนแอร์, ไทยเวียตเจ็ท แจ้งขอทำการบินไปยังสนามบินของ ทย.จำนวน 14  แห่ง โดยมีเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 26 เที่ยวบิน



          โดยสนามบิน 24 แห่งที่มีเที่ยวบินได้แก่ ลำปาง, แม่สอด, พิษณุโลก, บุรีรัมย์, สกลนคร, นครพนม, ร้อยเอ็ด, ขอนแก่น, อุบลราชธานี, อุดรธานี, ตรัง, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, กระบี่



ปิดสนามบินภูเก็ตต่อเนื่องอีก 15 วัน



          นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจ.ภูเก็ตยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นลำดับ 2ของประเทศ และมีอัตราติดเชื้อสูงที่สุดในประเทศไทย ทำให้ยังต้องคัดกรอง เฝ้าระวัง ควบคุมโรคและรักษาพยาบาล ส่งผลให้จ.ภูเก็ตจำเป็นอย่างยิ่งในการควบคุมช่องทางการเดินทางเข้า-ออก ดังนั้น เพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของโรค ผู้ว่าฯภูเก็ตจึง



          ประสาน กพท.ขยายระยะเวลาระงับการดำเนินงานของสนามบินภูเก็ตออกไปอีก 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-15 พฤษภาคม หรือจนกว่ามีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น เพื่อประโยชน์ในการป้องกันสาธารณะไม่ให้เกิดเหตุการณ์การระบาดของโรครุนแรงมากยิ่งขึ้นและเพื่อให้จังหวัดภูเก็ตสามารถแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงโดยเร็ว



ภูเก็ตเปิดด่านท่าฉัตรไชยวันนี้



          นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ในวันนี้ จะเปิดด่านท่าฉัตรไชย เพื่อให้กลุ่มคนต่างจังหวัดเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ตั้งแต่เวลา 05.00 น.โดยเปิดให้จองคิวการออกเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ แบ่งเป็นช่วงเช้า 2,500 คนช่วงบ่าย 2,500 คน จังหวัดภูเก็ตจะมีการแจ้งไปยังจังหวัดปลายทางของทุกคนเพื่อให้ทางจังหวัดนั้นมีการตรวจสอบตามมาตรการของแต่ละจังหวัดต่อไป



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X