ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันศุกร์ 1 พฤษภาคม 2563
มูดี้ส์ปรับศก. กลุ่มจี 20 ปีนี้ลดลงร้อยละ 4
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ เปิดเผยรายงานลดประมาณการน้ำมันและเศรษฐกิจโลกอีกครั้งคาดว่ามาตรการปิดเมือง เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจในกลุ่มจี 20 หดตัวร้อยละ 4 ในปีนี้ แล้วจะกลับมาเติบโตถึงร้อยละ 4.8 ในปีหน้า ซึ่งเป็นรายงานที่บ่งชี้ว่าสถานการณ์จะมีความรุนแรงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ และเอสแอนด์พี โกลบัล คาดการณ์ไว้ ทั้งเตือนด้วยว่ามีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถดถอยลงอีกหากควบคุมการระบาดไม่ได้และต้องกลับไปเริ่มต้นมาตรการต่าง ๆ อีกครั้ง
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะหดตัวร้อยละ 3 ในขณะที่เอสแอนด์พี โกลบัล คาดว่าจะหดตัวที่ระดับร้อยละ 2.4
มูดี้ส์ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะหดตัวร้อยละ 5.7 ญี่ปุ่นและยูโรโซนจะหดตัวร้อยละ 6.5 ส่วนสหราชอาณาจักรจะหดตัวร้อยละ 7 ในขณะที่อิตาลีจะหดตัวร้อยละ 8.2 ส่วนจีนจะโตเพียงร้อยละ 1 ในปีนี้และจะเติบโตถึงร้อยละ 7.1 ในปีหน้า
ขณะเดียวกัน วิกฤตกำลังทำให้ความไม่เท่าเทียมกันเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มคนที่ยากจนสุดในสังคม ได้รับผลกระทบมากที่สุด และอาจทำให้เกิดความไม่สงบทางการเมืองและความไม่พอใจทางสังคม
เศรษฐกิจฝรั่งเศส ไตรมาสแรกปีนี้ติดลบร้อยละ 5.8
ผลจากการปิดตายเมืองจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19ทำให้ภายในไตรมาสแรกของปี 2020 ตัวเลขจีดีพีของฝรั่งเศสหดตัวถึง ร้อยละ 5.8 ส่วนสภาพเศรษฐกิจอิตาลีพบว่า จีดีพีหดตัวไปร้อยละ4.7 และทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เยอรมันพบว่า มีจำนวนตัวเลขการว่างงานจากวิกฤตโรคระบาดระหว่าง 373,000 คน - 2.64 ล้านคน สำหรับเดือนเมษายน และทั้งสหภาพยุโรป เศรษฐกิจหดตัวที่ ร้อยละ 3.5 ใน 3 เดือนแรกของปี นับเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 1995
ราคาน้ำมันโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น – หุ้นสหรัฐฯ ลดลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 3.78 ดอลลาร์ ปิดที่ 18.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน วันสุดท้ายของสัญญา เพิ่มขึ้น 2.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 25.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากข้อมูลสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันพุธ(29 เม.ย.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของอเมริกา เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 เมษายน เป็น 527.6 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(30เม.ย.) ดิ่งลงหนัก หลังข้อมูลเศรษฐกิจยืนยันความกังวลว่าโควิด-19จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง ดาวโจนส์ ลดลง 288.14 จุด ปิดที่ 24,345.72 จุด
เศรษฐกิจของอียูหดตัวร้อยละ 3.5 ในไตรมาสแรก ผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ตัวเลขคนว่างงานในเยอรมนี เพิ่มเป็น ร้อยละ 13.2 ในเดือนเมษายน
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(30เม.ย.) ซื้อขายผันผวน ก่อนปิดลบแรง นักลงทุนคาดหมายว่าธนาคารกลางประเทศต่างๆทั่วโลกจะยังคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเอาไว้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 19.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,694.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
·
·
ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารัสเซีย พุ่งผ่าน 100,000 คน
นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสติน ของรัสเซีย ออกมายืนยันว่าตนเองมีผลตรวจเชื้อออกมาเป็นบวก ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั่วรัสเซียตอนนี้อยู่ที่ 106,498 คน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,099 คน ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 101 รายในช่วง 24 ชั่วโมง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 1,073 ราย รัสเซีย เป็นชาติลำดับที่ 8 ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกินกว่า 100,000คน รองจากสหรัฐฯ, สเปน, อิตาลี, ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักร, เยอรมนีและตุรกี
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก แตะระดับ 3,249,667 คน เสียชีวิต 232,936 ราย รักษาหายแล้ว 986,042 คน ส่วนในสหรัฐฯ ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 1,067,289 คน เสียชีวิต62,870 ราย รักษาหาย 125,949 คน
สำนักข่าวกรองสหรัฐฯ ยืนยัน ไวรัสโคโรนา ไม่ได้หลุดมาจากห้องทดลอง
สำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ(DNI) แถลงว่า นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าโรคโควิด-19 ไม่ได้สร้างขึ้นโดยมนุษย์หรือเกิดจากการดัดแปลงพันธุกรรม สวนทาง กับทฤษฎีสมคบคิดที่หยิบยกขึ้นมาโดยบรรดานักเคลื่อนไหวต่อต้านจีนและผู้สนับสนุนบางส่วนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ชี้ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พัฒนาโดยเหล่านักวิทยาศาสตร์จีน จากห้องปฏิบัติการวิจัยของรัฐบาลซึ่งกำลังศึกษาวิจัยเกี่ยวกับอาวุธชีวภาพ แต่ทำพลาดปล่อยหลุดออกมา คำยืนยันนี้ ออกมา หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ เตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากจีนเกี่ยวกับการแพร่ระบาด
นายกฯ สหราชอาณาจักรเชื่อผ่านจุดวิกฤตโควิด-19 แล้ว
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร เชื่อว่าผ่านพ้นจุดวิกฤตของโรคโควิด-19 ไปแล้ว แม้จะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 674 รายในช่วง 24 ชั่วโมง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 26,771ราย
แพทริค วัลแลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร บอกว่า เวลานี้อัตราการแพร่เชื้ออยู่ที่ระดับต่ำ ขณะที่จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลก็ลดลง เช่นเดียวกับคนไข้ที่อยู่ในห้องไอซียู
นอกจากนั้น รัฐบาลมีกำหนดพิจารณาทบทวนมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 7 พฤษภาคม และจะมีการเผยแพร่ "โร้ดแมป" ในสัปดาห์หน้า เกี่ยวกับแผนของรัฐบาลในการผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ หลังจากมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ถูกต้องก็คือ 26,771 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 171,253 คน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 6,032 คน
บริษัทยา เร่งผลิตวัคซีน และยารักษาโควิด-19
บริษัทยาไฟเซอร์ อิงค์ วางเป้าหมายผลิตวัคซีนรักษาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ที่กำลังพัฒนาร่วมกับไบโอเอ็นเทค (BioNTech) แห่งเยอรมนี ให้ได้ 10-20 ล้านโดส ในช่วงสิ้นปี 2020 สำหรับใช้กรณีฉุกเฉิน แต่ต้องรอผลการทดลอง ที่เริ่มทำการทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ชื่อว่า BNT162 ในมนุษย์กลุ่มแรกแล้ว 12 คนตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน โดยอาสาสมัครแต่ละคนจะได้รับปริมาณวัคซีน ที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่ 1 ไมโครกรัม ไปจนถึง 100 ไมโครกรัม เพื่อหาปริมาณที่เหมาะสม
ส่วนระยะถัดไปทางบริษัทจะทำการทดลอง กับกลุ่มอาสาสมัคร 200 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 18-55 ปี ในปริมาณวัคซีนที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน เพื่อดูความปลอดภัยและการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา
ไฟเซอร์,ไบโอเอ็นเทคและบริษัทอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงเหล่านักวิทยาศาสตร์ในทั่วทุกมุมโลก กำลังเร่งมือพัฒนาวัคซีนรักษาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มียาและวิธีการรักษาใดที่ได้รับการอนุมัติ ขณะที่ยาหลากหลายตัวที่อยู่ภายใต้การศึกษา มีผลการทดลองออกมาผสมผสาน
ส่วนบริษัท แอสตราเซเนกา บริษัทยาของสหราชอาณาจักร ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ดในโครงการพัฒนาวัคซีน ได้เริ่มทดสอบในอาสาสมัครแล้วเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เร่งผลักดันยา แรมเดอซิเวียร์ หลังระบุว่าใช้ได้ผลในผู้ป่วยอาการหนัก