*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา07.30น.*

10 ธันวาคม 2557, 08:06น.


+++การปรับเงินเดือนให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ครอบคลุมรวมประมาณ 1.98 ล้านคน  ประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ  ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนักงานราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในองค์กรอิสระและองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยสำนักงบประมาณได้จัดเตรียมงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้ว



+++ด้านกระทรวงการคลัง นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติ 4 มาตรการโครงการเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันและช่วยเหลือคนจน ได้แก่ โครงการนาโนไฟแนนซ์เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนมาขออนุญาตตั้งนิติบุคคลเพื่อปล่อยกู้รายย่อยให้กับประชาชน และเพื่อช่วยคนจนที่มีหนี้สิน หรือขาดเงินในการประกอบอาชีพ โดยเอกชนที่เข้าระบบจะมีวงเงินสำหรับการปล่อยกู้ไม่เกินรายละ 1 แสนบาท และคิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี หรือร้อยละ 3 ต่อเดือน โดยบริษัทหรือผู้ปล่อยกู้ที่มีความสนใจเข้าระบบจะต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยคาดว่าโครงการนาโนไฟแนนซ์จะเริ่มภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2558



+++นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นหารือเกี่ยวกับนาโนไฟแนนซ์และยินดีที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับไทย ซึ่งจะนำกระบวนการมาปรับใช้ให้เหมาะสม โดยเฉพาะการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อยอดความร่วมมือการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง หลังจากมาตรการนาโนไฟแนนซ์เป็นหนึ่งในชุดมาตรการของกระทรวงการคลังที่ ครม.อนุมัติแล้ว มาตรการนี้จะช่วยให้คนรากหญ้าไม่ต้องพึ่งเงินกู้นอกระบบ ขณะนี้มีเอกชนหลายรายสนใจเข้ามาทำนาโนไฟแนนซ์ อาทิ ร้านสะดวกซื้อ 7-11 มีความสนใจ ถือเป็นเรื่องดี เพราะมีความคุ้นเคยกับคนรากหญ้าและมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ



+++มาตรการที่ 2 ครม.ได้อนุมัติโครงการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี โดยจะลดภาษีให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2558 เป็นต้นไป มาตรการที่ 3 เรื่องการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากร 2 ประเภท คือ 1.ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าที่เป็นวัตถุดิบในการผลิต เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเครื่องจักรที่ไม่มีในประเทศไทย 1,274 รายการ เช่น ก๊าซธรรมชาติ สินแร่ ไม้สน ปลาทูน่า ปลาแซลมอน จากเดิมที่เสียภาษีตั้งแต่ร้อยละ 1-10 ให้ยกเว้นภาษีทั้งหมด และ 2.การลดภาษีนำเข้าเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเครื่องจักร เพื่อมาใช้ในการผลิต รวม 258 รายการ เช่น เครื่องจักรกล เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ โดยจากเดิมที่เสียภาษีสูงร้อยละ20-30 ปรับลดเหลือร้อยละ 10 และคาดว่าการยกเว้นภาษีและปรับลดภาษีลงทั้งสองประเภท จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ปีละ 6,100 ล้านบาท



+++มาตรการที่ 4 คือการออกพันธบัตรออมทรัพย์ให้ประชาชนทั่วไป วงเงินรวม 1 แสนล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าปกติ ใกล้เคียงกับร้อยละ 4 แบ่งเป็น การออกพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี วงเงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 2558 และ พันธบัตรของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อายุ 5 ปี วงเงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยภาระขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวที่ขาดทุนไป 6-7 แสนล้านบาท โดยการออกพันธบัตรล็อตแรกจะเริ่มตั้งวันที่ 12-16 มกราคม 2558 และจะจำกัดวงเงินให้ผู้ที่สนใจซื้อไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท และในวันที่ 19-20 มกราคม 2558 จะเปิดให้ซื้อได้ไม่จำกัดวงเงิน



+++ส่วนความร่วมมือกับจีน ในช่วงที่มีการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขงครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค. ที่กรุงเทพฯ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน จะเซ็นบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน หรือเอ็มโอยู ซึ่งเป็นการร่วมกันพัฒนาในโครงการรถไฟความเร็วปานกลาง 160-180 กม./ชม. เป็นการคอนเน็กทิวิตี้หรือการเชื่อมโยงเพื่อพัฒนาประเทศไปสู่อนาคต และสร้างความเชื่อมโยงของอาเซียน  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า จีนให้ความช่วยเหลือตั้งแต่ในรูปเงินกู้ ส่วนการช่วยเหลือรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากไทยของจีน เป็นการช่วยเหลือระหว่างกันอยู่แล้ว หลังเซ็นเอ็มโอยูแล้วจะต้องมีการพิจารณาศึกษารายละเอียดตั้งคณะทำงานในปี 2558 โดยเร็วที่สุด คาดว่าต้นปี 2559 จะเริ่มลงมือก่อสร้าง และต้องใช้เวลามาก ส่วนการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนวันที่ 22-23 ธันวาคมนั้น เป็นการเยี่ยมเยือนให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่เกี่ยวข้องกับการเซ็นเอ็มโอยูเรื่องรถไฟใดๆ ทั้งสิ้น



+++ขณะที่ช่วงสายวันนี้ นายกฯ เดินทางไปเยือนเกาหลี เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 25 ปี ของความสัมพันธ์อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ที่นครปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 10-12 ธ.ค. ภารกิจหลักของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ได้แก่ การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดภาคธุรกิจอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีในวันที่ 11 ธ.ค. และการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ในวันที่ 12 ธ.ค. ตลอดจนการหารือทวิภาคีกับผู้นำที่สำคัญ ได้แก่ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี และเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน และพบปะกับภาคธุรกิจชั้นนำของเกาหลีใต้ อาทิ ซัมซุง, แอลจี, ฮุนได, เค-วอเตอร์ อย่างไรก็ตาม คาดว่ามีการหารือ เรื่องการบริหารจัดการน้ำ และการต้อนรับต่างประเทศที่จะมานำเสนอแผนบริหารจัดการน้ำ โดยไทยจะยึดประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสำคัญ



+++อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จะวางพานพุ่มดอกไม้ถวายบังคม พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้า อยู่หัว เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ หน้าอาคารรัฐสภาก่อน จากนั้นจะออกเดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้



+++การดำเนินคดีกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5  เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีที่ สน.วัดพระยาไกร และ สน. พระโขนง ให้กับคณะพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พิจารณาแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาลงความเห็นสั่งคดีให้กับอัยการ ซึ่งสำนวนคดีไม่ได้นำสำนวนคดีที่ผู้ต้องหาก่อเหตุข่มขู่นายไตรสรณ์ ธีระตระกูล อดีตเจ้าของสัมปทานโรงน้ำแข็งในตลาดไท อ.คลอง หลวง จ.ปทุมธานี ในพื้นที่สภ.คลองหลวง มารวม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม



+++ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่ยังจับกุมไม่ได้ ในคดีข่มขู่ทวงหนี้ 37 ล้านบาท ท้องที่ สน.พระโขนง มี 2 คน คือนายปรีชา ดาราไตร อายุ 44 ปี ผู้จ้างวาน และนายไพเชษฐ์ เมธีสริยพงศ์ อายุ 45 ปี ผู้ติดต่อ และเจ้าของบ้านพาเหยื่อไปกักขัง ส่วนท้องที่ สน.วัดพระยาไกร มี 1 คน คือนายนพพร ศุภพิพัฒน์ อายุ 43 ปี จ้างให้ลดค่าเสียหาย ทั้งหมดอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีและยังไม่มีใครติดต่อเข้ามอบตัว  พ.ต.ท.ชูศักดิ์ คำทราย พงส.ผนพ.สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยว่า ได้ทำการสรุปสำนวนส่งให้ผู้บังคับบัญชาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



+++ด้านพ.ต.อ.สีหนาท  ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เปิดเผยเรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์  และพวก ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้งข้าราชการเรียกรับประโยชน์จากการค้าน้ำมันเถื่อน เปิดบ่อนการพนันผิดกฎหมาย และฟอกเงินที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของ พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ และพวกเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการพนันอันเป็นมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงินจึงมีมติให้เจ้าหน้าที่ ปปง. ตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และพวก          โดยทรัพย์สินที่มีมติอายัดทรัพย์ชุดแรกตามที่พนักงานสอบสวนส่งมอบให้คือโฉนดที่ดิน 136 รายการ ในจำนวนนี้คณะกรรมการธุรกรรม พบว่ามี 32 รายการ ที่ได้มาก่อนที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ จะเข้ารับตำแหน่ง ผบช.ก. เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2553 ดังนั้นจึงอายัดโฉนดที่ดินไว้ 104 รายการ ที่ได้หลังรับตำแหน่ง มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท  โฉนดดังกล่าวมีชื่อ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นผู้ครอบครองเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ถือครองโดยนอมินีที่เป็นเครือญาติ ตามขั้นตอนจะเปิดโอกาสให้แสดงหลักฐานชี้แจงที่มาของทรัพย์ภายใน 30 วัน โดย ปปง. มีอำนาจอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบได้ภายใน 90 วัน และในวันนี้ จะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่มีชื่อครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อให้เข้าชี้แจงที่มาทรัพย์สิน ส่วนผู้ต้องหาที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครองโฉนดที่ดิน เจ้าหน้าที่ ปปง. จำเป็นต้องเข้าไปสอบถามในเรือนจำ นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินอื่น ๆ ที่รอพนักงานสอบสวนส่งมา เช่น รถยนต์ โบราณวัตถุ รวมกว่า 20,000 ชิ้น ขณะเดียวกัน ปปง.อยู่ระหว่างการตรวจสอบติดตามเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งเครือข่าย



+++นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ร่างรัฐธรรมนูญกับการปฏิรูป ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ คาดว่า ในเวทีนี้จะทำให้เห็นแนวทางการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ชัดเจน นายบวรศักดิ์ ยืนยันว่าข้อเสนอและแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการยกร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นต่างๆ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ ยังไม่ใช่ข้อยุติ และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่แกงส้มหม้อหนึ่ง ซึ่งมีพ่อครัวถึง 265 คน ทุกคนกำลังขายของว่าสูตรแกงส้มของตัวเองนั้นอร่อยที่สุด ทั้งที่ยังไม่มีการก่อไฟเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปตื่นเต้น ทั้งนี้ วันที่ 15-17 ธ.ค. สภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) จะประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นการยกร่างรัฐธรรมนูญจาก กมธ.ปฏิรูปทั้ง 18 คณะ และในวันที่ 19 ธ.ค. นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.จะได้ทำพิธีส่งมอบข้อคิดเห็นการยกร่างรัฐธรรมนูญของ สปช. ต่อ ประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ต่อไป



+++พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ที่ปรึกษากมธ. ในฐานะประธานอนุกมธ.ปฏิรูปกลไกและระบบเลือกตั้ง กล่าวถึงข้อเสนอลักษณะต้องห้ามของ ส.ส.ว่า เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แม้จะมีการรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นการรอการลงโทษในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลภาษีอากรให้ชำระภาษีกับรัฐเคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญนี้ไม่ให้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป โดยให้ผลนับแต่รัฐธรรมนูญนี้ (ฉบับใหม่) ใช้บังคับ ไม่เป็นบุพการี คู่สมรสทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย บุตรหรือบุตรบุญธรรม เคยเป็นคู่สมรสและยังคงมีความสัมพันธ์ฉันสามี-ภรรยาของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง



+++ตำรวจ สอบเหตุยิงกันตายสามศพที่ จ.กาญจนบุรี ประกอบด้วยนางนวพรรณ แสนสม อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน นายพะนอ บ่อสะอาด อายุ 52 ปี คนร้ายใช้ปืนชนิดเดียวกันที่ขมับซ้ายกระสุนฝังใน 1 นัด ที่มือขวายังกำปืนไว้แน่น และนายชัยณรงค์ เชาว์ดี อายุ 60 ปี สามีของนางนวพรรณ และมีตำแหน่งเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานคดีแรงงานภาค 7 เสียชีวิตที่โรงพยาบาล พ.ต.ท.กิตติภณ ลิ้มประเสริฐยิ่ง สวส.สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ระบุว่า นายณัฐวุฒิ จุลกรณ์ อายุ  24 ปี ลูกน้องของนางนวพรรณ ให้การว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด เลยรีบวิ่งออกมาดูพบนางนวพรรณ และนายพะนอ เสียชีวิตแล้ว และรีบนำนายชัยณรงค์ส่งโรงพยาบาล ทั้ง 3 คนร่วมหุ้นกันทำธุรกิจถ่ายภาพที่ระลึกตามสถานที่พักต่าง ๆ จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ต่อมาทั้ง 3 คน มีปัญหากันเรื่องธุรกิจที่ร่วมกันทำ กระทั่งนายพะนอขู่จะฆ่า 2 สามีภรรยา



 

ข่าวทั้งหมด

X