ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.ประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2563

30 เมษายน 2563, 07:18น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.ประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน  2563



ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำสั่งนายกฯข้อกำหนด ตามมาตรา9 พ.ร.ก. ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน



          เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 4) โดยมีรายละเอียดดังนี้



         ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2563 และประกาศ เรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 1) ลงวันที่ 28 เม.ย. 2563 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2563 จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2563 แล้ว



         โดยที่รัฐบาลได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง และมอบหมายให้ฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันประเมินสถานการณ์เพื่อพิจารณาผ่อนคลาย หรือเพิ่มความเข้มงวดการบังคับใช้บางมาตรการ โดยมุ่งจะให้การควบคุมและการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินสามารถยุติลงได้โดยเร็วและไม่ย้อนกลับมาอีก



          ขณะเดียวกัน ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข ภายใต้มาตรการป้องกันโรคและคำแนะนำของทางราชการ โดยจะพิจารณาผ่อนคลายเป็นลำดับขั้นตอนตามหลักเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และคำนึงถึงประเภทของกิจการ หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงน้อย สถานที่ซึ่งสามารถจัดระบบควบคุมดูแลได้ และผู้เกี่ยวข้องซึ่งสามารถนำมาตรการป้องกันโรคมาบังคับใช้ได้เป็นลำดับแรก โดยใช้ช่วงเวลาระยะแรกนี้ เตรียมการเพื่อรองรับการจัดระบบตามมาตรการและคำแนะนำของทางราชการไปพลางก่อน



          อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังนี้



          ให้บรรดาประกาศหรือคำสั่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ออกตามกฎหมาย ว่าด้วยโรคติดต่อ ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ว่าด้วยการเดินอากาศ และกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองที่ได้ประกาศ หรือสั่งไว้ก่อนวันที่ข้อกำหนดนี้ใช้บังคับ ไม่ว่าจะเป็นการห้าม การให้กระทำการ หรือการผ่อนคลายใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นประกาศหรือสั่งตามข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปเช่นเดิม จนกว่าจะได้มีข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น



ประชาชน เว้นระยะห่างลดลง



          กรมสุขภาพจิตนำเสนอชุดพฤติกรรมคนไทย ที่สำรวจระหว่างวันที่ 12-18 มีนาคม และช่วง 30 มีนาคม 5 เมษายนพบว่า พฤติกรรมการเว้นระยะห่างในส่วนบุคคลากรทางการแพทย์ดีขึ้น ร้อยละ 87.1 เพิ่มขึ้นเป็น 87.7 ในส่วนประชาชนทั่วไปลดลง จากเดิมร้อยละ 86.9 เป็น 82.4 การหมั่นล้างมือบุคลากรทางการแพทย์ให้ความสำคัญมากขึ้นจาก 93 เป็น 97.4 เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปที่ตัวเลขดีขึ้นจาก 83.6 เป็น 87.5



         ขณะที่การสวมหน้ากากอนามัย พบว่าบุคลากรทางการแพทย์และคนทั่วไปให้ความสำคัญมากขึ้นจนเห็นตัวเลขชัดเจน โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นเพศหญิง สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้านและอยู่ในชุมชนเพิ่มขึ้น จาก 84.3 เป็น 97.7 ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ เพศชาย จาก 60.7 เป็น 92.6 ส่วนประชาชนเพศหญิงจาก 78.2 เป็น 97.4 เพศชาย 70 เป็น 96.8



ยอดติดเชื้อลดแต่ยังไม่พ้นเสี่ยง



          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ย้ำว่า แม้ในไทยสถานการณ์ดีขึ้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงจนดูเหมือนควบคุมสถานการณ์ได้ แต่สถานการณ์โลกและประเทศรอบบ้านเราไม่ดี ยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ยังวางใจไม่ได้ มาตรการที่คุมเข้มทำได้ดี แสดงถึงศักยภาพทุกภาคส่วนร่วมกันทำงานถึงได้ผลออกมาอย่างนี้  แต่ยังพบว่ามีตัวอย่างบางประเทศผ่อนปรนแล้วเกิดระบาดระลอก 2 และระลอก 3 การผ่อนคลายจึงต้องทำอย่างระมัดระวัง ในทุกก้าวเดินนั้นแสดงถึงความสุ่มเสี่ยง



          สำหรับในวันนี้ ยังมีคนไทยเดินทางกลับมาต่อเนื่อง วันนี้ (30 เมษายน)จะเดินทางกลับจากรัสเซีย 15 คน ศรีลังกาและมัลดีฟส์ 40 คน และอินเดีย 170 คน ตั้งวันที่ 4-28 เมษายน มีคนไทยกลับมาแล้ว 2,981 คน จาก 22 ประเทศ ส่วนที่นักท่องเที่ยวจีนจะขอเดินทางกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเดือนพฤษภาคม คงเป็นไปได้ยาก เพราะสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ขยายเวลาห้ามอากาศยานบินเข้าประเทศชั่วคราวออกไปถึงวันที่ 31 พฤษภาคม จึงชัดเจนว่านักท่องเที่ยวยังมาไม่ได้ เราต้องดูแลคนในประเทศก่อน เรื่องท่องเที่ยวไว้ทีหลัง ขอให้สบายใจได้



รอฟังแถลงศบค. ผ่อนปรนมาตรการ



          วันนี้ ต้องติดตาม เวลา 11.30 น ศบค. จะแถลงเรื่องข้อกำหนดและมาตรการผ่อนปรน โดยมี น.พ.ทวีศิลป์ โฆษก ศบค. แถลง ร่วมด้วย  ศ. นพ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษา ศบค.  เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช. เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ สศช. ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงมหาดไทย และประธานสภาหอการค้าไทย จะร่วมแถลงและตอบข้อซักถาม



มติ กทม.คลายล็อค 8 สถานที่



          พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. เพื่อพิจารณาคลายล็อก อนุญาตให้เปิดบริการ 8 สถานที่ ได้แก่ 1.ร้านอาหาร ยกเว้นในห้างสรรพสินค้า 2.ตลาดและตลาดนัด 3.สถานที่ออกกำลังกาย 4.สวนสาธารณะ 5.ร้านตัดผม-เสริมสวย 6.ร้านตัดขนสัตว์ และคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ 7.โรงพยาบาล คลินิก สถานพยาบาล และ 8.สนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อม



ตำรวจ ลุยปราบข่าวปลอม  



          นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคม (ดีอีเอส) ได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับการเสนอข่าวปลอมหรือบิดเบือน สร้างความตื่นตระหนกและความสับสนในสังคม ในช่วงที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการไปแล้วหลายราย ล่าสุดตรวจพบอีก 8 ราย ดังนี้



          รายที่ 1-7 ได้โพสต์ข้อความว่า "ประกาศเคอร์ฟิว 24 ชม. ทั่วประเทศ" ซึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจ จนพบตัวและดำเนินคดี แล้ว 5 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.ปัทมาพร ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pattamaporn อ.ปราสาท จ.สุรินทร์  2.น.ส.กาญจนาภรณ์ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Namfon . อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ 3.น.ส.สุวดี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก สุวดี... อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร 4.น.ส.ศศิธร ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Bag bag... อ.เมือง จ.ขอนแก่น 5.นางณัชอร ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ณัชอร... อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี



          ส่วนอีก 2 ราย พบตัวแล้วอยู่ระหว่างดำเนินคดี ได้แก่ 1.นายสิทธิพร ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ขั้นเทพ... อ.เมือง จ.บึงกาฬ 2.น.ส.วันนา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wanna... อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์



          สำหรับรายที่ 8 ได้โพสต์ข้อความว่า "1 พ.ค. นี้ ชลบุรีจะกลับมาสู่ภาวะปกติ" คือ นางภัชราภรณ์  ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ภัชราภรณ์ ...อยู่ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี



          รมว.ดีอีเอส เตือนว่า ก่อนที่จะโพสต์หรือแชร์ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง ต้องคิดให้ดีและตรวจสอบความถูกต้องก่อน เพราะเมื่อทำไปแล้วจะถือว่าความผิดสำเร็จ เกิดผลเสียหายต่อสังคม ต้องรับโทษตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข่าวทั้งหมด

X