*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

+++ในที่สุด ประธานาธิบดีเบนิโญ อาคีโน แห่งฟิลิปปินส์ ได้เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดเกาหลีใต้-อาเซียน ระหว่างวันที่ 11-12ธ.ค.นี้ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากประเมินแล้ว พบว่าผลกระทบที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นฮากูปิตที่พัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ไม่รุนแรงอย่างที่คาดไว้  เนื่องจากมีการเตรียมการรองรับไว้แล้ว ทั้งการอพยพประชาชนกว่า1ล้านคนเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงเพื่อความปลอดภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ดังนั้น ประธานาธิบดีอาคีโน จึงตัดสินใจเดินทางไปร่วมประชุมด้วยตามกำหนดการเดิม อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีอาคีโน จะเฝ้าสังเกตการณ์ภารกิจฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยระหว่างไปเยือนเกาหลีใต้ พายุไต้ฝุ่นฮากูปิตถือว่าเป็นพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในรอบปีนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย27ศพ ซึ่งจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตมากถึง 7,350ศพ

+++โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ แถลงว่า เกิดเหตุวางระเบิดรถบัสโดยสาร ซึ่งเป็นของบริษัทขนส่งชนบท โดยขณะเกิดเหตุรถคันดังกล่าวกำลังขับผ่านเมืองมาราแม็ก ในพื้นที่เหตุการณ์ความไม่สงบบนเกาะมินดาเนา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย9ศพ บาดเจ็บอีก17คน เมื่อเดือนที่แล้วได้เกิดเหตุลักษณะเดียวกันกับบริษัทดังกล่าว บนเกาะมินดาเนา ทำให้มีผู้บาดเจ็บ4ศพ หลายฝ่ายเชื่อว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเป็นการตอบโต้ของกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในช่วงปี1970ในรูปแบบกองโจร

+++นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง จะยังคงปักหลักอยู่ในค่ายผู้ประท้วงที่ตั้งปิดกั้นเส้นทางจราจรไปจนถึงเช้าวันพฤหัสบดีก่อนจะถอนตัวในการประท้วงที่ยาวนานกว่า2 เดือนเพื่อปล่อยให้เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่มีกำหนดเข้ารื้อถอนสิ่งกีดขวางต่างๆ รวมทั้งเต้นท์ของกลุ่มผู้ประท้วงตามคำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่จะรื้อถอนค่ายผู้ประท้วงในเวลา09.00 น. ทั้งนี้คำสั่งศาล ซึ่งเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์หลายฉบับและเจ้าหน้าที่ก็โพสต์ลงในอินเตอร์เน็ตด้วย คาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดในเขตคอสเวย์เบย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งก็จะมีตำรวจประมาณ 7,000 นายตรึงกำลังในการปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ดังกล่าว

+++ความคืบหน้าจากเหตุชายถือมีดบุกเข้าไปในโบสถ์ชาวยิวชาบัด ลูบาวิตช์ เวิลด์ เฮดควอเตอส์ ในเขตบรูคลิน นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณ01.40น.ของวันที่9ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ13.40น.วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย ก่อนตะโกนว่า “ฆ่ายิว”และแทงน.ส.เลวี โรเซนบลัต นักเรียนศาสนาชาวอิสราเอล ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ในอาการทรงตัว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนครนิวยอร์กเปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่พบคนร้ายเป็นคนวิกลจริต ทราบชื่อภายหลังคือ นายคาลวิน ปีเตอร์ ชายผิวสีวัย49ปี ทั้งนี้หลังเกิดเหตุตำรวจได้รีบรุดมายังที่เกิดเหตุ พร้อมกับสั่งให้คนร้ายทิ้งมีดความยาว9นิ้ว แต่นายปีเตอร์กลับวิ่งเข้าไล่แทงเจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้ตำรวจยิงเข้าที่ลำตัว 1นัด ซึ่งเหตุเกิดขึ้นภายในโบสถ์ดังกล่าว ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ส่วนนายจอห์น มิลเลอร์ หัวหน้าฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายของสำนักงานตำรวจนครนิวยอร์ก(เอ็นวายพีดี)แถลงว่า เหตุดังกล่าวไม่ปรากฏส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้าย แต่ตำรวจจะเพิ่มการตรวจตราบริเวณด้านนอกของโบสถ์ดังกล่าวให้มากขึ้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือป้องกันเหตุร้าย

+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโยฮันเนสเบิร์กประเทศแอฟริกาใต้ ว่าอาร์คบิชอบ เดสมอนด์ ตูตูแห่งแอฟริกาใต้ และเจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพวัย 83ปี แถลงว่าจะขอยกเลิกกำหนดการเดินทางทั้งหมดของตัวเองในช่วงเวลาที่เหลือถึงสิ้นปีนี้เพราะต้องใช้เวลาในการรักษาตัวจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากซึ่งอยู่กับเขามานาน 15ปีนับเป็นปัญหาด้านสุขภาพล่าสุดที่เกิดขึ้นกับอาร์คบิชอบเดสมอนด์ ตูตูสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้เพื่อต่อต้านการเหยียดผิวในแอฟริกาใต้ เมื่อปีที่แล้วเคยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะอาการติดเชื้อเรื้อรังแต่ผลการตรวจครั้งนั้นยังไม่พบเนื้อร้าย อาร์คบิชอบเดสมอนด์ ตูตูมีกำหนดเดินทางไปร่วมประชุมกับผู้ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพที่กรุงโรม ประเทศอิตาลีในสัปดาห์นี้แต่ก็ต้องขอยกเลิกด้วยเหตุผลดังกล่าว

+++ขณะที่ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ น.ส.มาลาลา ยูซาฟไซ วัย17ปี ชาวปากีสถาน และนายไกลาศ สัตยาธี วัย60ปี ชาวอินเดีย ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ กล่าวเน้นย้ำในงานแถลงข่าวก่อนขึ้นรับรางวัลถึงความสำคัญของสิทธิเด็ก ไม่ว่าจะมาจากประเทศใดหรือศาสนาไหน เด็กทุกคนควรได้รับการให้ความสำคัญ ในงานแถลงข่าวก่อนขึ้นรับรางวัลโนเบล ที่จะจัดขึ้นในวันพุธนี้ในกรุงออสโล

+++ด้านนายสัตยาธี นักรณรงค์เคลื่อนไหวสิทธิเด็กในอินเดีย กล่าวว่า ได้เรียกร้องปกป้องสิทธิเด็กจากการถูกขายให้เป็นทาส และการใช้แรงงานเด็กมาโดยตลอด และยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่ถูกซื้อขายเยี่ยงสัตว์ หรือแม้แต่ใช้เด็กเป็นตัวประกัน รวมทั้งถูกฝึกให้เป็นทหาร โดยเขาเผยว่า รางวัลที่เขาได้รับถือเป็นเกียรติแก่เด็กเหล่านั้นทั้งหมด

+++กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์เรื่องการตั้งคณะกรรมการพิเศษ เร่งตรวจสอบกรณีน.ส.โช ฮยอน-อา บุตรสาวของนายโช ยาง-โฮ ประธานบริษัทและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของโคเรียนแอร์ สายการบินแห่งชาติของเกาหลีใต้ เป็นต้นเหตุทำให้เที่ยวบินของโคเรียนแอร์จากนครนิวยอร์กสู่กรุงโซลเมื่อวันศุกร์ ต้องออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนด ทั้งนี้ รายงานของโคเรียนแอร์ระบุว่า น.ส.โชแสดงความไม่พอใจอย่างหนักเมื่อพนักงานต้อนรับเสิร์ฟถั่วแมคคาเดเมียให้ก่อนเครื่องขึ้น เนื่องจากเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้สั่ง อีกทั้งยังเป็นการเสิร์ฟถั่วที่บรรจุอยู่ในซอง ไม่ใส่ชามกระเบื้องอย่างถูกต้องตามแบบฉบับของการบริการให้กับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง เธอจึงสั่งให้หัวหน้าพนักงานต้อนรับลงจากเครื่อง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อ ความผิดพลาด ในการทำงานของลูกน้องเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นขณะเครื่องบินกำลังอยู่บนทางวิ่งเพื่อเตรียมเทคออฟ ส่งผลให้นักบินต้องนำเครื่องเลี้ยวกลับมาจอดเทียบอาคารผู้โดยสาร และทำให้การออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนดนานถึง 20 นาที อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินที่มีน.ส.โชเป็นหนึ่งในผู้โดยสาร 250 คน เดินทางถึงกรุงโซลอย่างปลอดภัยในที่สุดกรณีที่เกิดขึ้นจุดกระแสวิจารณ์อย่างหนักในสังคมเกาหลีใต้ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า น.ส.โชกระทำเกินกว่าเหตุ ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน เรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดและโปร่งใส พร้อมกับตำหนิน.ส.โชว่า ทำลายภาพลักษณ์ของโคเรียนแอร์อย่างรุนแรง ทั้งที่ควรทราบดีว่า การเป็นบุตรสาวของซีอีโอสายการบินแห่งชาติ ถือว่าเธอต้องเป็นหน้าเป็นตาให้กับบริษัทและประเทศด้วยเช่นกัน

+++นายจอห์น เบรนแนน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ)แถลงยอมรับกรณีที่วุฒิสภาสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ซีไอเอว่าการสอบสวนด้วยวิธีการทรมานของเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่กระทำต่อผู้ต้องสงสัยเครือข่ายก่อการร้ายอัล-กออิดะห์เกิดขึ้นจริงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังเหตุการณ์ก่อการร้ายโจมตีอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ นครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 11ก.ย.2544แต่เขาก็ยอมรับว่าวิธีการนี้ได้ผลเมื่อสามารถได้เบาะแสข่าวกรองที่เป็นประโยชน์จนนำไปสู่การขัดขวางหรือทำลายแผนก่อการร้ายได้รวมทั้งจับกุมผู้ต้องสงสัยได้เพิ่มเติมและช่วยชีวิตคนไว้ได้มาก

+++เจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดีย สอบสวนผู้บริหาร “อูเบอร์”ผู้ให้บริการแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนเกี่ยวกับข้อกล่าวอ้างของบริษัทที่ว่าบริษัทได้ตรวจสอบประวัติย้อนหลังอย่างละเอียดครอบคลุมของพนักงานขับรถก่อนจ้างเป็นพนักงาน ขณะที่ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินเดียก็เรียกร้องให้ห้ามใช้บริการแท็กซี่อูเบอร์ทั่วประเทศหลังจากเกิดเหตุคนขับรถแท็กซี่ในกรุงนิวเดลีถูกกล่าวหาว่า ข่มขืนผู้โดยสาร พรีเจนทรากุมาร ยาดาฟเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงนิวเดลีกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะมีการดำเนินคดีอาญาต่อบริษัทอูเบอร์ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานว่ามีการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความปลอดภัยของการให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นเชิญชวนการใช้บริการแท็กซี่เป็นวันที่2ของการสอบปากคำผู้บริหารอูเบอร์ในอินเดีย นายกากัน ภาเตียซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนในประเด็นที่ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่คนขับรถแท็กซี่อาจใช้เอกสารปลอมในการสมัครงานกับอูเบอร์ตามการรายงานข่าวของสำนักข่าวเพรสทรัสต์ ออฟ อินเดีย ทั้งนี้นายชีพ กุมาร ยาดาฟ คนขับรถแท็กซี่วัย32 ปีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวและจะขึ้นในการต่อศาลในกรุงนิวเดลีอีกครั้งในวันพฤหัสบดี หลังผู้หญิงวัย 26ปีซึ่งว่าจ้างนายยาดาฟ ให้ไปส่งเธอที่บ้านจากงานเลี้ยงสังสรรค์แห่งหนึ่งเมื่อคืนวันศุกร์กล่าวหาเขาว่า ข่มขืนเธอ อูเบอร์เริ่มให้บริการใน 10เมืองของอินเดีย รวมทั้งกรุงนิวเดลีและนครมุมไบ เมืองศูนย์กลางทางการเงิน ด้วยมูลค่าการลงทุนสูงประมาณ40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐบริษัท ซึ่งลดค่าธรรมเนียมการให้บริการให้คำมั่นว่าจะสนองตอบในการให้บริการอย่างรวดเร็วด้วยใช้เวลาไม่ถึง 10นาที รถแท็กซี่ก็ถึงผู้โดยสาร

+++ราคาน้ำมัน ปิดตลาดวันอังคาร ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดรอบ 4 ปีเล็กน้อย เหตุสหรัฐฯปรับลดคาดการณ์กำลังผลิตปี 2015 เนื่องจากการตัดทอนงบประมาณการขุดเจาะ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ ปิดที่ 63.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 66.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันจากแรงเทขายตามตลาดทุนเอเชียและยุโรป ก่อนปิดผสมผสาน ท่ามกลางข่าวจีน เข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยกู้และปัญหาไร้เสถียรภาพทางการเมืองในกรีซ  ดาวโจนส์ ลดลง 51.28 จุด ปิดที่ 17,801.20 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.49 จุด  ปิดที่ 2,059.82 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 25.77 จุด ปิดที่ 4,766.47 จุด 

+++ปัจจัยความเคลื่อนไหวเข้มงวดการปล่อยกู้ของจีนและภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในกรีซ ผลักให้นักลงทุนหันถือครองโลหะมีค่าเพื่อลดความเสี่ยง และส่งให้ราคาทองคำ พุ่งขึ้นเหนือ 1,200 ดอลลาร์อีกครั้ง ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 37.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,232.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์