ตำรวจยังคงจับกุมผู้ขายหน้ากากอนามัยเกินราคาอย่างต่อเนื่อง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3 ล่อซื้อหน้ากากอนามัยจากนายหยางซึง แซ่เฉิน ได้จำนวน15,000ชิ้น ในราคาชิ้นละ8บาท สามารถจับกุมขณะที่ นายหยางซึง นัดให้ไปรับสินค้าที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าย่านบางชัน
จากการสอบปากคำนายหยางซึง รับสารภาพว่า ลักลอบสั่งหน้ากากอนามัยจากเพื่อนที่อยู่ประเทศจีนเข้ามา แต่ไม่สามารถแสดงเอกสารการนำเข้าและเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องให้กับเจ้าหน้าที่ได้ จึงถูกแจ้งข้อหาไม่ยื่นแบบแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย แผนการผลิตต่อเจ้าพนักงาน ไม่ยื่นแบบแจ้งราคาซื้อต่อเลขาธิการคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เป็นผู้ประกอบธุรกิจ(จำหน่ายหน้ากากอนามัย ) ดำเนินการโดยจงใจที่จะทำให้ราคาสูงเกินสมควรหรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้า
พล.ต.ท.สมพงษ์ ระบุว่า หน้ากากอนามัยดังกล่าวนำเข้ามาโดยไม่ได้ขออนุญาตนำเข้าตามกฎหมายและยังขายเกินราคา เชื่อว่ายังมีขบวนการทั้งคนไทยและผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์ที่มีพฤติการณ์ลักษณะดังกล่าวอีกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19
สำหรับผู้กระทำผิดจะมีโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ขายเกินราคาควบคุม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน100,000 บาท ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีโทษปรับไม่เกิน10,000 บาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน7ปี ปรับ ไม่เกิน140,000 บาท และในกรณีที่เป็นผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายก็ต้องแจ้งปริมาณการถือครองสินค้าต่อกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หากไม่แจ้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท