ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30 น.ประจำวันพุธที่ 29 เมษายน 2563
รอผลประชุมมาตรการคลายล็อก ประเทศไทย
การขยายประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไป 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม มีคนไทยรอฟังมาตรการคลายล็อกในวันนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยชี้แจงความจำเป็นของรัฐบาลในการต่ออายุพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป ส่วนข้อกำหนดต่างๆยังคงสภาพเดิมอยู่ในการเคลื่อนย้าย ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อีกส่วนจะมีมาตรการผ่อนคลายปลดล็อกกิจกรรมต่างๆ ซึ่งคณะกรรมการศึกษาทำรายละเอียดเรื่องเหล่านี้ว่ามีกิจกรรมใดที่ควรผ่อนปรนบ้าง ในตอนนี้และระยะต่อไป ขอให้ทุกคนรอฟังการแถลงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะทยอยออกมาภายในสัปดาห์นี้
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การผ่อนปรนมาตรการต่างๆแบ่งเป็น 4 ระยะคือ ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 ระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ซึ่งแต่ละระยะจะห่างกัน 14 วัน เพื่อประเมินว่าหลังผ่อนปรนไปแล้วมีการแพร่ระบาดหรือไม่ หรือจำเป็นต้องปิดอีกหรือเปล่า ซึ่งจะประกาศเมื่อถึงเวลาว่า อะไรจะผ่อนคลายในระยะที่ 1 บ้าง ยืนยันว่า ได้คำนึงถึงผู้มีรายได้น้อย แต่ก็ต้องร่วมมือกับรัฐบาลด้วย ในส่วนมาตรการที่ออกมาขั้นต้น ก็ต้องมีมาตรการเสริมของผู้ประกอบการด้วย ไม่ว่าจะเป็นท้องที่ ท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ทั้งรายใหญ่รายเล็ก ขอเห็นใจรัฐบาลบ้าง เราต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยชีวิตประชาชนเป็นหลักด้วย สถานการณ์ด้านสาธารณสุขก็มีความสำคัญอยู่
สำหรับข้อเสนอของกระทรวงวัฒนธรรมเรื่องให้เลื่อนวันหยุดราชการในเดือนพฤษภาคมทั้งหมดนั้น นายกฯเผยว่า ที่ประชุมครม.วันเดียวกันนี้ได้พิจารณาและเห็นชอบให้ถือเป็นวันหยุดราชการเช่นเดิม รวมทั้งวันหยุดของรัฐวิสาหกิจ หรือแรงงานก็ขอให้ยึดหลักตามเดิม เพียงแต่ต้องมีมาตรการป้องกัน มาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing จำเป็นต้องทำอย่างเข้มงวดหลายมาตรการที่ปลดล็อกไปแล้ว จำเป็นต้องดูแลให้ดีที่สุด
สำหรับการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน มาตรการจำกัดเข้า-ออกในราชอาณาจักรทางบก น้ำ และอากาศ ครม.ก็มีมติให้ขยายไปถึงวันที่ 31 พฤษภาคม เช่นกัน สำหรับการประกาศเคอร์ฟิวก็ยังคงเวลาเดิมคือ ระหว่างเวลา 22.00 -04.00 น.การงดหรือชะลอข้ามพื้นที่จังหวัดก็ยังคงมีอยู่ ขอฝากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและท้องถิ่นดูแล เพื่อลดการแพร่ระบาด จะได้ควบคุมและตรวจสอบได้
พล.อ.ประยุทธ์ ขอร้องทุกคนอย่าเรียกร้องมากนัก ขอให้เอาส่วนของตรงกลางมาพิจารณาในนโยบายก่อน ในส่วนแนวปฏิบัติต้องฟังจากท้องถิ่นและพื้นที่ด้วยโดยเฉพาะจากกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด แต่ต้องระวังการแพร่ระบาดที่อาจกลับมาทำให้ทุกอย่างที่ทำไปนั้นเสียเปล่า "ผมไม่ต้องการให้ย้อนกลับไปเหมือนกัน”
ส่วนปัญหาเฟคนิวส์ ย้ำให้ทุกกระทรวงติดตามกรณีเผยแพร่คำพูดบิดเบือนจากข้อเท็จจริงทำให้เกิดผลกระทบในการทำงาน ตรงนี้ต้องใช้กฎหมายดูแลจัดการคือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กับหมิ่นประมาท แต่วันนี้อย่าลืมมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินซึ่งมีข้อกำหนดอยู่แล้วในเรื่องนี้ ค่อนข้างจะแรงกว่ากฎหมายปกติ ฉะนั้นขอทุกคนระมัดระวังด้วย และสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด จะเห็นว่าที่ผ่านมามีการจับกุมดำเนินคดีหลายรายการ หลายผู้ต้องหา และทุกคนพูดอย่างเดียวคือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งก็ต้องไปพิสูจน์ทราบตัวเองในชั้นศาล
ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มแค่ 7 คน
ศบค.แถลงพบผู้ป่วยรายใหม่ 7 คน เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เสียชีวิตสะสม 54 ราย พบประวัติสัมผัสผู้ป่วยในครอบครัว คนบ้านเดียวกันต้องระวังตัวมากสุด เพราะจะใช้ชีวิตปกติได้ต่อเมื่อมีวัคซีน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตสองราย เป็นผู้ป่วยสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ทั้งคู่ อีกทั้ง ข้อมูลติดเชื้อช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มที่พบมากสุดคือ สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้ามีถึง 151 คน จึงต้องให้ความสำคัญ รักษาระยะห่างแม้เป็นคนในครอบครัว ใครเป็นญาติต้องป้องกันร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องทำให้เป็นวิถีชีวิตใหม่ ตอนนี้ต้องระวัง เพราะทุกคนมีโอกาสติดเชื้อทั้งสิ้น การมีผู้ป่วยต่ำสิบเป็นวันที่สองติดต่อกันมีไม่กี่ประเทศในโลกที่จะเห็นภาพการติดเชื้อจำนวนน้อย แต่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทำให้ภาคภูมิใจและให้กำลังใจในการรักษาระยะห่าง รักษาตัวให้ดีต่อไป การ์ดอย่าตก วันนี้เราทำได้เป็นผลมาจากพฤติกรรมเมื่อ 7-14 วันที่แล้ว แต่พฤติกรรมวันนี้จะปรากฏผลใน 7-14 วันข้างหน้า ถ้าทำไม่ได้ตัวเลขเพิ่มขึ้นแน่ ขอแรงทุกคนยังต้องป้องกันตัวสม่ำเสมอ เข้มงวดอย่างนี้ตลอด เราจะได้อยู่รอดปลอดภัยทุกคน
สำหรับข้อมูลของผู้ป่วยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงวันที่ 26 เมษายน พบว่ามีผู้ป่วยสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 328 คนหรือร้อยละ 11 ของผู้ป่วยทั้งหมด ในจำนวนนี้เสียชีวิตถึง 21 ราย เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และปัจจัยเสี่ยงทำให้คนเหล่านี้ติดเชื้อ คือ พิธีทางศาสนา รองลงมา คือ เกี่ยวกับสนามมวยและผู้ป่วยยืนยัน ขณะที่ยอดรวมผู้เดินทางกลับประเทศไทยทางเครื่องบินระหว่างที่ 4-27 เมษายน มี 2,769 คน โดยกลับมาจาก 21 ประเทศ
ตชด.เข้มชายแดนไทย-มาเลย์ หวั่นซ้ำรอยติดเชื้อ 42 คน
กำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าตรวจชายแดน กองร้อย ตชด.437 อ.สะเดา จ.สงขลา นำโดย ร.ต.อ.สุริวงค์ สมทรง ผบ.ร้อย ตชด.43 ออกลาดตระเวนในพื้นที่แนวชายแดนไทยมาเลเซีย เขตรอยต่อ 3 จังหวัด ตั้งแต่ จ.สตูล จ.สงขลาและ จ.ยะลา ส่วนใหญ่เป็นแนวป่าเขาห่างไกลและเป็นช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าออกของคนไทยที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย และบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยไม่ผ่านการตรวจอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการเชิงรุกของเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มของผู้ที่ลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติซึ่งไม่ได้ผ่านการคัดกรอง หลังจากที่พบกลุ่มชาวต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองที่อยู่ภายในศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ติดเชื้อจำนวน 42 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกลาดตระเวนและเฝ้าระวังต่อเนื่องทั้งวัน
กพท.ประกาศแนวทางปฏิบัติ‘เที่ยวบินในประเทศ’ป้องโควิด-19 บังคับใช้ 1 พ.ค.
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า ได้ประกาศกำหนดแนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารในเส้นทางการบินภายในประเทศ ระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เช่น จำกัดจำนวนที่นั่งที่จะให้บริการบนอากาศยาน โดยการจำหน่ายบัตรโดยสารจะต้องคำนึงถึงการจัดที่นั่งโดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 ที่นั่งโดยสารระหว่างผู้โดยสารแต่ละคน กรณีเป็นอากาศยานที่มีจำนวนที่นั่งทั้งหมด (Total number of seat) ไม่เกิน 90 ที่นั่ง ทั้งนี้ ให้จำหน่ายบัตรโดยสารได้ไม่เกินร้อยละ 70 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมดของอากาศยาน
ส่วนท่าอากาศยานต้นทางที่ไม่มีการทำการตรวจคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการในท่าอากาศยาน ให้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย (Body Temperature Screening) ของผู้โดยสาร โดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัด กำหนดให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย (Surgical Mask) ตลอดเวลาตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนกว่าจะออกจากเครื่อง ให้สำรองที่นั่ง 2 แถวหลังสุดด้านใดด้านหนึ่งของอากาศยานไว้สำหรับแยกกักผู้โดยสารที่ป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วยเพื่อเฝ้าสังเกตอาการและป้องกันการแพร่กระจายของโรค
ครม.ตั้ง 'พ.ต.ท.กรวัชร์' อธิบดีดีเอสไอ
ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอรับโอน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง
สำหรับพ.ต.ท.กรวัชร์ เป็นรองอธิบดีดีเอสไอ ในปี 2560 และเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมในปี 2562 มีผลงานคดีสำคัญในสมัยอยู่ ตร. เช่น คลี่คลายคดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร รื้อฟื้นคดีการฆาตกรรมนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ คลี่คลายคดีการฆาตกรรมแกนนำต่อต้านการสร้างบ่อขยะราชาเทวะ ส่วนดีเอสไอ เช่น คดีบุกรุกป่าอ.กะปง จ.พังงา คดีรถยนต์หรูจดประกอบเลี่ยงภาษี และคดีบิลลี่ พอลละจี ที่หายตัวไป