คณบดีศิริราช แนะใช้มาตรการ'ทุบด้วยค้อน สลับ ฟ้อนรำ'

           การวิเคราะห์สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย ที่มีผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า วันนี้ประเทศไทยมีแนวโน้มอยู่ในกลุ่มประเทศที่สามารถควบคุมโรคได้ดี โดยอัตราการรักษาหายกว่า 2,000 คน เหลือรักษาในโรงพยาบาลหลักร้อย อัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยร้อยละ 1.8 ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและประชาชนให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างทางสังคม สิ่งเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดว่าเราน่าจะเข้าสู่การจัดทำยุทธศาสตร์ผ่อนคลาย สำหรับการผ่อนปรนจะใช้ยุทธศาสตร์ "ทุบด้วยค้อน แล้วเปิดให้ฟ้อนรำ" เป็นยุทธศาสตร์ที่หลายประเทศนำมาใช้ แต่การดำเนินการ อาจจะต่างกันไป

          ซึ่งการทุบด้วยค้อน ก็คือ การออกมาตรการจำเป็นต่างๆ และได้รับความร่วมมือจากคนในประเทศ ทำให้จำนวนผู้ป่วยลดลง จนถึงระดับหนึ่ง ซึ่งการทุบด้วยค้อน กำหนดไว้ว่า ไม่ควรทำนานเป็นเดือน หลายเดือน ควรทำเป็นสัปดาห์สลับกันไป เพราะสิ่งที่แลกมาคือ เศรษฐกิจ ซึ่งคนจำนวนหนึ่ง อาจต้องขาดงาน ไม่มีรายได้ ขณะเดียวกัน คนที่อยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปสังสรรค์ก็จะมีความตึงเครียด เมื่อถึงจุดหนึ่ง อาจจะรับไม่ได้ จึงต้องหาความสมดุลของเศรษฐกิจ สังคม 

           จากนั้นก็จะเข้าสู่โหมดที่ 2 ที่เรียกว่า การฟ้อนรำ ก็คือ การผ่อนคลาย แต่ว่าการผ่อนคลายจะทำให้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น เพราะคนที่มีเชื้ออยู่ แล้วไม่รู้ตัว เมื่อออกมานอกบ้าน ก็อาจจะติดเชื้อมากขึ้น แต่จำนวนจะไม่สูงเหมือนช่วงแรก ถ้าประชาชนให้ความร่วมมือดี หากยอดผู้ป่วยสูงต้องดึงลง ต้องกลับมาควบคุมอีก มีการลงค้อนครั้งที่ 2 เพราะฉะนั้นจะเป็นลักษณะของการควบคุม ผ่อนคลาย สลับๆ กันแบบนี้ ประเมินผลเป็นระยะ

           ส่วนการผ่อนปรนในไทยต้องดูความเหมาะสมตามพื้นที่ และกิจกรรม แต่ไม่ผ่อนปรนเรื่องมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด คือการเว้นระยะห่าง ออกนอกบ้านแต่อย่าออกไปนาน การสวมหน้ากากทุกครั้ง การล้างมือบ่อยๆ การเว้นระยะห่างต้องทำอย่างเข้มข้น

..