สธ. เผยผลสำรวจพบประชาชนร้อยละ 4 ไม่สวมหน้ากากอนามัยทั้งที่ไม่สบาย

26 เมษายน 2563, 17:16น.


          กระทรวงสาธารณสุขเผยผลสำรวจพฤติกรรมการสวมหน้ากากป้องกันโรคของประชาชนในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 พบว่าร้อยละ 4 ไม่สวมหน้ากากอนามัย แม้ว่าจะมีอาการไข้ และหวัด เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก 



          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงที่ประชาชนเริ่มผ่อนคลาย เพราะมีจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มมีการเดินทาง มีการพบปะกันมากขึ้น จึงขอว่ายังต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด ทั้งการรักษาระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ไม่สัมผัสจมูก ปาก หรือขยี้ตา



          โดยในการที่กรมควบคุมโรคได้สำรวจพฤติกรรมการสวมหน้ากากของประชาชนในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่อง จำนวน 5 ครั้ง โดยครั้งที่ 5 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าเมื่อมีอาการไข้ และหวัด เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก ประชาชนจะสวมหน้ากากป้องกันการแพร่เชื้อถึงร้อยละ 83 และสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันไม่ให้รับเชื้ออีกร้อยละ 12 แต่มีร้อยละ 4 ที่ตอบว่าไม่ได้สวมหน้ากากป้องกัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงที่จะแพร่โรคให้คนอื่นได้ จึงขอเตือนว่า เมื่อกลับมาทำงาน มีการพบปะกันมากขึ้น การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเป็นเรื่องที่จำเป็น ต้องทำอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นปราการด่านสุดท้ายในการป้องกันเชื้อออกจากตัวผู้ป่วย รวมทั้งเป็นการป้องกันการรับเชื้อจากผู้อื่น



          ส่วนในการค้นหาผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อเชิงรุก โดยตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของภาคเอกชนนั้น ขอความร่วมมือให้ประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพราะเป้าหมายสำคัญของการคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อ เพื่อนำตัวเข้าสู่ระบบการรักษา ป้องกันการแพร่เชื้อ รวมทั้งต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดมาตรวจด้วย เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ



...



 



 

ข่าวทั้งหมด

X