แนวทางการใช้ชีวิตวิถีใหม่ หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการทางสังคมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้สถานการณ์ของโรคระบาดไม่กลับมารุนแรงได้อีก
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) ชี้แจงว่า แม้ว่าวันนี้เจอตัวเลขน้อย และแม้ในอนาคตยอดผู้ติดเชื้อไวรัสฯเป็นศูนย์ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้หากสถานการณ์โลกยังไม่เป็นศูนย์ หรือประเทศเพื่อนบ้านสถานการณ์ยังรุนแรงอยู่ ประเทศไทยก็มีโอกาสกลับมาติดเชื้อไวรัสฯได้ใหม่ และสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า ดังนั้นต้องใช้ระยะเวลาในการควบคุมการแพร่ระบาด ตราบใดที่ยังไม่พบวัคซีน โดยในการควบคุมโรค สิ่งสำคัญคือต้องควบคุมตนเอง มีการปรับเปลี่ยนชุดพฤติกรรม ดูแลตัวเองไม่ให้เป็นผู้แพร่เชื้อไวรัสฯ หรือรับเชื้อไวรัสจากบุคคลอื่น หากการ์ดตกเมื่อไรสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะเป็นศูนย์ทันที
โดยตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอความร่วมมือประชาชนควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือเพราะเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี พิสูจน์แล้วว่า 1 เดือน ประชาชน ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทุกหน่วยงานอย่างดีที่สุด ตอนนี้เป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องประคองสถานการณ์แบบนี้ไปอีก เพราะการปรับตัวของมนุษย์นี้ทำให้เผ่าพันธุ์เราอยู่รอดได้เป็นล้าน ๆ ปีและเชื่อว่าถ้าทุกคนทำได้อย่างดี ทุกคนจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน
อย่างไรก็ตามวันนี้ เวลา 16.20น. จะมีนักเรียน นักศึกษาคนงานและนักท่องเที่ยวไทยที่ตกค้างจากออสเตรเลียเที่ยวบิน TG476 เดินทางกลับเข้าไทยรวม 207 คน และในวันพรุ่งนี้อีก 3 เที่ยวบิน จากญี่ปุ่น JAL031 ในเวลา 15.40 น. 35 คน จากเนเธอร์แลนด์ 25 คน ในเวลา 17.05 น. และ นักเรียน นักศึกษา จากนิวซีแลนด์ 168 คน ถึงไทยเวลา 20.15 น. ทั้งหมดจะเข้าสถานกักกันตัวของรัฐบาล มีการดูแลจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดทั้ง 14 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการติดเชื้อไวรัสฯ จากนั้นจึงจะได้รับการยืนยันให้เดินทางกลับบ้าน
....